script async='async' crossorigin='anonymous' src='https://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js?client=ca-pub-4162361834395246'/> Tuvagroup: การไปเสียภาษีที่ไปรษณีย์

Wednesday, March 11, 2020

การไปเสียภาษีที่ไปรษณีย์



การไปเสียภาษีที่ไปรษณีย์ 



       ( ภาพบน ) โดยยอดเงินที่เราจะต้องเสียภาษีนั้น จะมีอยู่สองยอด คือยอดที่ต้องเสียภาษีให้กับทางศุลกากรคือ 3,519 บาท ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) และเสียค่าปฏิบัติการให้กับทางไปรษณีย์อ่อนนุช ( คือ ที่ทำการไปรษณีย์ที่จ่ายของให้รา ) อีก 20 บาท ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) ซึ่งเราจะชำระเป็นรวมกันเป็นยอดเดียวเลยครับ

       อันนี้ไม่ต้องไปกังวลอะไรครับ ก็แค่ให้รู้ยอดเท่านั้น เพราะเวลาไปไปรษณีย์ เราก็แค่ยื่น "ใบเขียว" นี้ให้เขา พร้อมกับเงิน 3,519 + 20 = 3,539 บาท  เท่านั้นเองครับ ที่เหลือเดี๋ยวทางไปรษณีย์เขาก็จัดการของเขาเอง

       สำหรับการไปรับพัสดุสินค้า ณ.ที่ทำการไปรษณีย์ ก็มีสองแบบนะครับ คือ "มอบอำนาจให้คนอื่นไปรับ" หรือ "ไปรับด้วยตัวเอง"  ซึ่งจะต่างกันก็คือเรื่องการเขียนเอกสารด้านหลังใบเขียวนั่นเองครับ  /  เรามาดูวิธีการเขียนที่เอกสารด้านหลังกันครับ   



แบบที่ 1 มอบอำนาจให้คนอื่นไปรับพัสดุสินค้าแทนเรา




       ( ภาพบน ) พลิกไปที่ด้านหลังของ "ใบเขียว" แล้วมองหาหัวข้อ "หลักฐานการมอบฉันทะ" ซึ่งเราจะพบอยู่ตรงบริเวณที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้    




       ( ภาพบน ) จากนั้นก็กรอกข้อมูลลงไป โดยข้อมูลที่กรอกลงไปมีดังนี้

       ลงชื่อ "เจ้าของพัสดุสินค้า" ซึ่งก็คือ ตัวคุณเอง  /  ซึ่งในตัวอย่างข้างบนนี้ ทีมงานเขียนไปว่า นายวิษณุ  ตุวยานนท์ ( เป็นชื่อของ Webmaster ) พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับเลขบัตรประชาชน และที่อยู่ของ "เจ้าของพัสดุสินค้า" พร้อมทั้งเซ็นลายเซ็นของ "เจ้าของพัสดุสินค้า" ด้วย


       ลงชื่อ "ผู้รับมอบฉันทะ" ( หรือผู้รับมอบอำนาจ ) ลงไป  ซึ่งในที่นี้ก็คือ นางวิชุดา  ตุวยานนท์ ( แต่ยังไม่ต้องใส่เลขบัตรประชาชนของ "ผู้รับมอบฉันทะ" นะครับ  คือใส่แต่ชื่อว่า นางวิชุดา  ตุวยานนท์ เฉยๆ )
 /  อันนี้เป็นตัวอย่างเฉยๆนะครับ ถ้าเป็น "ใบเขียว" ที่ส่งไปให้คุณลูกค้า  คุณลูกค้าก็ต้องใส่ "ผู้รับมอบฉันทะ" ที่อาจจะเป็นลูกน้องของคุณนะครับ ไม่ใช่ใส่ว่า นางวิชุดา  ตุวยานนท์  /  เพราะทีมงานใส่ให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆ    




       ( ภาพบน ) จากนั้นก็มองหาหัวข้อ "4.คำรับรองการได้รับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์" ซึ่งเราจะพบอยู่ตรงบริเวณที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ 




       ( ภาพบน ) จากนั้นก็กรอกข้อมูลลงไป โดยข้อมูลที่กรอกลงไปก็คือรายละเอียดของ "ผู้รับมอบฉันทะ" ( หรือผู้รับมอบอำนาจ ) ซึ่งก็คือ นางวิชุดา  ตุวยานนท์  และต้องกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับบัตรประขาขน และที่อยู่พร้อมทั้งลายเซ็นลงไปด้วย โดยกรอกลงไปตรงบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้ 





     ( ภาพบน ) จากนั้นก็จัดเตรียมเอกสารดังนี้นะครับ คือ

       1.ใบเขียว


       2.สำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ ( คือสำเนาบัตรของ "เจ้าของพัสดูสินค้า" )


       3.สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบฉันทะ  ( คือสำเนาบัตรของลูกน้องคุณ ที่คุณใช้ให้ไปเอาของแทนคุณนั่นเองครับ )


       แล้วก็อย่าลืมฝาก เงินค่าภาษี ไปกับลูกน้องด้วยนะครับ!


       แนะนำว่าควร กรอกเอกสารตั้งแต่อยู่ที่บ้าน เลยนะครับ เพราะถ้าไปกรอกที่ไปรษณีย์มันจะฉุกละหุกมาก ไหนคนจะรอต่อคิว ,ไหนเจ้าหน้าที่จะยุ่ง ฯลฯ ดังนั้น ถ้าเราทำเอกสารไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนไปไปรษณีย์ ก็จะทำให้อะไร อะไร มันง่ายขึ้นครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ที่ทีมงานได้มาจากการไป ที่ทำการไปรษณีย์บ่อยๆน่ะครับ


       ในข้อต่อไปคือ กรณีที่คุณผู้อ่านไปรับสินค้าด้วยตัวเองนะครับ



แบบที่ 2 ไปรับพัสดุสินค้าด้วยตัวเอง

   


     ( ภาพบน ) ให้มองหาหัวข้อ "4.คำรับรองการได้รับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์" ซึ่งเราจะพบอยู่ตรงบริเวณที่ ลูกศรสีส้มเหลือง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้



     ( ภาพบน ) จากนั้นก็กรอกข้อมูลของ "เจ้าของพัสดุ" ( ซึ่งก็คือตัวคุณเอง ) ลงไปตรงบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีส้ม ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้  พร้อมทั้งเซ็นชื่อด้วยนะครับ ( เซ็นชื่อของคุณเอง )



    ( ภาพบน ) เมื่อกรอกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมเอกสารดังนี้คือ

       1.ใบเขียว


       2.บัตรประชาชนตัวจริงของคุณเอง ไม่ต้องสำเนาบัตรนะครับ ให้ใช้ตัวจริงได้เลย )


       แล้วก็ เงินค่าภาษี ที่จะต้องไปจ่าย เท่านี้เองครับ


       ก่อนจะออกเดินทางไป ณ.ที่ทำการไปรษณีย์เพื่อเสียภาษีนั้น ขอทบทวนความพร้อมอีกทีนะครับ


1.สถานที่ไปเสียภาษี


      ( ภาพบน ) ให้พลิกกลับมาดูด้านหน้าของ "ใบเขียว"  และดูบริเวณที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ให้ดีนะครับ ว่าเขาให้ไปเสียภาษีที่ไหน คือเขาจะกำหนดไว้ตรงนี้ ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) ไม่ใช่ไปตามใจชอบนะครับ

       ที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้านที่สุดของ Webmaster ก็คือที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ แต่ทาง Webmaster ก็ไม่สามารถไปเสียภาษีที่ซีคอนสแควร์ได้ครับ ต้องขับรถไปอีกเป็น 10 กม. เพื่อไปชำระภาษี ณ.ที่ทำการไปรษณีย์อ่อนนุชโน่นเลย เพราะเขากำหนดไว้อย่างนั้น ( คือหมายความว่า พัสดุสินค้าที่เราจะไปรับนั้น มันจะอยู่ ณ.ที่ทำการไปรษณีย์ ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้น่ะครับ ดังนั้น เราจึงต้องไปเสียภาษีที่นั่น แล้วรับพัสดุสินค้าที่นั่น )


2.เอกสารที่ต้องใช้



     ( ภาพบน ) ถ้าให้คนอื่นไปรับพัสดุสินค้าแทน เอกสารที่ต้องเตรียมไปก็มีดังนี้ครับ

       1.ใบเขียว


       2.สำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ ( คือสำเนาบัตรของ "เจ้าของพัสดู" )


       3.สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบฉันทะ  ( คือสำเนาบัตรของลูกน้องคุณ ที่คุณใช้ให้ไปเอาของแทนคุณนั่นเองครับ )




   ( ภาพบน ) ถ้าไปรับพัสดุสินค้าด้วยตัวเอง ก็ต้องเตรียมเอกสารดังนี้คือ

       1.ใบเขียว


       2.บัตรประชาชนตัวจริงของคุณเอง ไม่ต้องสำเนาบัตรนะครับ ให้ใช้ตัวจริงได้เลย )



       แนะนำว่าควร กรอกเอกสารตั้งแต่อยู่ที่บ้าน เลยนะครับ เพราะถ้าไปกรอกที่ไปรษณีย์มันจะฉุกละหุกมาก ไหนคนจะรอต่อคิว ,ไหนเจ้าหน้าที่จะยุ่ง ฯลฯ ดังนั้น ถ้าเราทำเอกสารไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนไปไปรษณีย์ ก็จะทำให้อะไร อะไร มันง่ายขึ้นครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ที่ทีมงานได้มาจากการไป ที่ทำการไปรษณีย์บ่อยๆน่ะครับ


3.เงินที่จะเอาไปจ่ายให้เจ้าหน้าที่


      ( ภาพบน ) อันนี้สำคัญนะครับ เตรียมหลักฐานให้ลูกน้องไปอย่างดี แต่ปรากฏว่าดันลืมฝากเอาเงินให้ไปด้วย ก็ต้องเสียเวลากลับมาเอาเงินอีก อุตส่าห์รอเข้าคิวต่อแถวตั้งนานกว่าจะถึงคิวเรา

       ไม่ใช่ว่าไปถึงแล้วก็รับได้เลยนะครับ บางทีก็รอเกือบยี่สิบนาที เพราะต้องรอคิว คือคนที่เข้าคิวก่อนหน้าเรา และเสียภาษีก่อนหน้าเรานั้น บางทีเจ้าหน้าที่ก็ต้องเสียเวลาไปค้นหาของให้คนก่อนหน้าเราคนนั้น ตั้งนานแน่ะครับ เพราะเขาไม่ได้เตรียมของไว้รอเรานะครับ เพราะเขาไม่รู้ว่าเราจะไปรับของวันไหน ดังนั้น เขาจะเก็บของทั้งหมด ( ทั้งของๆเรา และของๆคนอื่นๆ ) ไว้ในโกดังอีกส่วนหนึ่ง  /  แล้วเวลามีคนไปเสียภาษี เขาก็จะไปค้นเอาของนั้นมาให้ ซึ่งก็จะต้องเสียเวลาตรงนี้นานพอสมควร 

       ควรมี แบ็งค์ปลีก แบ็งค์ย่อย และเหรีญ ด้วยนะครับ มันจะได้เร็วขึ้น เผื่อเจ้าหน้าที่เขาไม่มีเหรียญ ไม่มีแบ็งค์ปลีกไว้ทอนเราน่ะครับ  ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นอย่างนั้น คือเจ้าหน้าที่เขาจะไม่ค่อยเตรียมเรื่องเงินทอนน่ะครับ

       คือว่าแผนกของการเสียภาษีนี้ มันจะอยู่คนละส่วนกับแผนกรับส่งไปรษณีย์ทั่วไปนะครับ  /  ในส่วนของแผนกรับส่งไปรษณีย์ทั่วไปนั้น มันจะอยู่อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนนั้น เขาจะมีแบ็งค์ย่อย แบ็งค์ปลีก และเหรียญ เตรียมเอาไว้รอทอนให้ลูกค้า  /  แต่ว่าที่แผนกเสียภาษีนี่ ไม่ค่อยมีความพร้อมเรื่องการทอนเงินสักเท่าไรน่ะครับ ดังนั้น เราจึงควรเตรียมเงินไปพอดี พอดี จะได้ไวขึ้นครับ - อันนี้เป็นประสบการณ์นะครับ


       เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปที่ไปรษณีย์ได้เลยครับ จะได้ไปเสียภาษีแล้วรับพัสดุสินค้ากลับมาครับ


ภาพบน ) ได้รับของเรียบร้อยแล้วครับ

- END -