- หน้า 2 -
1 < 2
( ภาพบน ) ในภาพข้างบนนี้ เป็นภาพที่ซ้ำกับหน้าแรกนะครับ ( เอามาให้ดูเพื่อเป็นการอ้างถึงหน้าแรกครับ ) ก็คือการที่คนขายเขาปฏิเสธการต่อรองครั้งนี้ โดยให้ดูตรงที่มี ขีดเส้นใต้สีส้ม ขีดอยู่ในภาพข้างบนนี้
คือหมายความว่าการขอต่อราคา จาก 50 ปอนด์ เป็น 45 ปอนด์ ครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนขายไม่ยอม
( ภาพบน ) ในภาพข้างบนนี้ ตรงที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีม่วง ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้ ก็คือการที่อีเบย์ถามเราว่า ในเมื่อคนขายเขาปฏิเสธการต่อรองครั้งแรกมาอย่างนี้ ทางลูกค้า ( คือเรา ) ต้องการจะดำเนินการอย่างไรต่อ โดยมี 3 ตัวเลือก คือ
1.ซื้อสินค้าชิ้นอื่นที่ใกล้เคียงกัน ( See similar items ) คือหมายความว่าเปลี่ยนไปซื้อสินค้าชิ้นอื่นเลย ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยที่เราตัดสินใจว่าเราจะไม่ซื้อสินค้าชิ้นนี้แล้ว
2.เพิ่มเงินที่จะต่อรองสินค้า ( Increase offer ) คือหมายความว่า เราจะต่อรองสินค้าเป็นครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ต่อไปไหม?
3.ซื้อสินค้าชิ้นนี้เลยในราคาเต็ม 50 ปอนด์ ( Buy it now )
ขอแทรกนิดนึงครับ
( ภาพบน ) จริงๆแล้ว เรายังมีโอกาสต่อรองราคาสินค้าได้อีก 2 ครั้ง เพราะตรงที่มี ขีดเส้นใต้สีเขียว ขีดอยู่ในภาพข้างบนนี้ บอกไว้ว่า You've got 2 attempts left!
คือหมายความว่า ครั้งแรกเราขอต่อราคาเหลือ 45 ปอนด์ ( ซึ่งคนขายปฏิเสธมา ) เราก็สามารถขอต่อรองเป็นครั้งที่สองได้ว่า ขอเป็น 46 ปอนด์ และต่อรองเป็นครั้งที่สามได้ว่า ขอเป็น 47 ปอนด์
"แต่" เราไม่อยากมากเรื่อง คือพอคนขายเขาปฏิเสธที่ 45 ปอนด์ เราก็ซื้อที่ 50 ปอนด์ ( ราคาเต็ม ) ไปเลย โดยไม่ใช้สิทธิต่อรองอีก 2 ครั้งแต่อย่างใด ( เพราะว่าเราหมั่นไส้คนขาย ที่ขอต่อรองราคาครั้งแรก แค่ 5 ปอนด์ คนขายก็ไม่ให้ .. เคี่ยว )
ซื้อราคาเต็มเลย ( คือ 50 ปอนด์ )
ในเมื่อคนขายเขาไม่ยอมลดให้เป็น 45 ปอนด์ ก็ไม่ง้อ
ในเมื่อเราขอต่อราคาไปเป็น 45 ปอนด์ จากราคาเต็ม 50 ปอนด์ แล้วโดนปฏิเสธมา เราก็รู้สึกหมั่นไส้คนขายคนนี้ขึ้นมา ( หมั่นไส้ว่า ขอต่อราคาแค่ 5 ปอนด์ ก็ไม่ได้ )
เราก็เลยคิดว่า ด้วยความหมั่นไส้นี้ ขอซื้อในราคาเต็ม 50 ปอนด์ เลยแล้วกัน ไม่ต้องต่อราคามันแล้ว ( ความจริง เรายังต่อรองราคาได้อีก 2 ครั้ง )
( ภาพบน ) ในเมื่อเราตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อราคาเต็ม 50 ปอนด์ แล้ว เราก็เลือกไปที่ตัวเลือกที่ 3 ซึ่งก็คือการคลิ๊กไปที่ปุ่ม Buy it now ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ |
( ภาพบน ) ปรากฏว่าคนขายไม่ยอมส่งไทยเสียแล้ว เพราะเขาขึ้นข้อความว่า The seller has not specitied shipping option to Thailand ตรงที่มี ขีดเส้นใต้สีม่วง ขีดอยู่ในภาพข้างบนนี้ ทำให้เรา งง เป็นอย่างมาก!
( ภาพบน ) ขณะที่เรายัง งุนงง อยู่นั้น เราก็เปิดไปดูที่หน้าเวบขายสินค้าชิ้นนี้อีกครั้ง ( ดังที่เห็นในภาพข้างบนนี้ )
( ภาพบน ) ปรากฏว่า "ข้อความมันเปลี่ยนไป" ก็คือคนขายไม่ยอมส่งประเทศไทยจริงๆ โดยมันขึ้นข้อความตรงที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้ ว่า ไม่ส่งมาประเทศไทย ให้ลองถามคนขายดู ( Contact seller )
ทีมงานลองสอบถามคนขายดู
( ภาพบน ) คลิ๊กที่ Contact seller ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ |
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ จากนั้น เราก็เลือกคลิ๊กไปที่ตัวเลือก Shipping ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) จากนั้น ก็ให้คลิ๊กไปที่ปุ่ม Contact the seller ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ |
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ |
( ภาพบน ) จากนั้นก็ดำเนินการดังนี้คือ
กรอกข้อความไปหาคนขาย ในเนื้อหาประมาณว่า ขอให้ส่งไทยได้ไหม? โดยกรอกลงไปตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
ติ๊กเครื่องหมาย "ถูก" ลงไปที่กล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตรงที่ ลูกศรสีส้มเหลือง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ เพื่อให้สำเนาอีเมลนี้ ส่งไปที่ กล่องขาเข้า ( In box ) ของเรา
( ภาพบน ) คลิ๊กไปที่ปุ่ม Send message ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ |
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ ซึ่งก็แปลว่าเราได้ส่งข้อมูลหาคนขายเรียบร้อยแล้ว
( ภาพบน ) กล่องขาเข้า ของอีเมลของทีมงาน tuvagroup.com |
( ภาพบน ) ภาพขยายของส่วนที่อยู่ใน กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีม่วง ในภาพก่อนหน้านี้ |
( ภาพบน ) ข้างบนนี้ก็คือข้อความที่เราเขียนไปหาคนขาย ( โดยอีเบย์เขาสำเนาข้อความดังกล่าว ส่งมาให้เราทางอีเมลด้วย )
ข้อความที่เราเขียนไปหาคนขายก็คือว่า ขอให้เขาส่งสินค้ามาประเทศไทยจะได้ไหม? ( ปรากฏอยู่ตรงบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบสีม่วง ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้ )
คนขายตอบปฏิเสธกลับมา ! |
( ภาพบน ) ให้ดูเฉพาะตรงส่วนที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีส้ม ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้ |
( ภาพบน ) ภาพขยายของส่วนที่อยู่ใน กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีส้ม ในภาพก่อนหน้านี้ |
( ภาพบน ) เราเขียนถามไปเสียยาว แต่คนขายตอบกลับมาสั้นๆเหมือนไม่เต็มใจ
ที่สำคัญคือตำตอบที่คนขายตอบกลับมานั้น เป็นคำตอบปฏิเสธ โดยตอบว่า "ไม่ส่งประเทศไทย เสียใจด้วย"
สรุป ... |
สรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือว่า ( เรียงลำดับดังนี้นะครับ )
ตอนแรก คนขายสินค้า ขายสินค้าในราคา 50 ปอนด์ โดยตั้งระบบไว้ว่า ให้ต่อรองราคาได้ ( หมายถึง ให้ Make offer ได้ )
เรา ในฐานะลูกค้า พอเห็นว่าต่อรองราคาได้ ( Make offer ได้ ) ก็เลยขอต่อรองไป 45 ปอนด์ ( คือขอให้ลดราคาลง 5 ปอนด์ )
ซึ่งการต่อราคา 5 ปอนด์ นั้น ทำให้ผู้ขายโกรธมาก เพราะถือว่าต่อราคามากเกินไป ดังนั้น เขาจึงปฏิเสธการต่อราคากลับมา พร้อมทั้งยกเลิกการส่งประเทศไทยไปเลย
ส่วนเรา ในฐานะคนซื้อนั้น ยังไม่รู้ว่าคนขายโกรธ และคิดว่าในเมื่อเขาไม่ขายในราคา 45 ปอนด์ เราก็ขอซื้อในราคาเต็ม คือ 50 ปอนด์เลย ( ราคาเริ่มต้น ) โดยไม่ได้ต่อรองราคาอีก ( แม้ว่าจะต่อรองได้อีก 2 ครั้งก็ตาม เราก็ไม่ต่อรองราคาอีกแล้ว เพราะหมั่นไส้คนขาย )
แต่พอเราซื้อในราคาเต็ม ( 50 ปอนด์ ) ก็ปรากฏว่าคนขายไม่ส่งประเทศไทยเสียแล้ว ( ทั้งๆที่ตอบแรก ยังส่งประเทศไทยอยู่เลย )
แม้ว่าทีมงานจะส่งข้อความไปหาคนขาย เพื่อขอร้องให้คนขายส่งไทย แต่คนขายก็ตอบปฏิเสธกลับมาอย่างไม่มีเยื่อใย
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าเราจะมีเงิน แต่ถ้าคนขายเขาไม่ขายเสียอย่าง เราก็ทำอะไรไม่ได้ ( คือซื้อไม่ได้ )
และการที่คนขายเปลี่ยนใจไม่ขายนั้น ก็เป็นเพราะว่าเราไปต่อราคามากเกินไปนั่นเอง คือเราต่อราคา 5 ปอนด์ จึงทำให้เขาโกรธมาก ( คนขายเขาคงคิดว่า ราคาที่ขายนี้ก็ถูกมากอยู่แล้ว ถ้าจะต่อรองก็ควรต่อแค่ 1 ปอนด์ เท่านั้น ไม่ควรต่อมากกว่านี้ - อันนี้ หมายถึงว่าคนขายเขาคิดอย่างนี้ )
- END -
1 < 2