script async='async' crossorigin='anonymous' src='https://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js?client=ca-pub-4162361834395246'/> Tuvagroup: February 2020

Saturday, February 29, 2020

การเช็คสถานะ




       สวัสดีครับ นี่คือการเชียน Blog ครั้งแรกของผมครับ เนื้อหาจริงๆจะอยู่ใน "หน้าเว็บหลัก" อยู่แล้ว แต่ที่นำมาเขียนใน Blog บางส่วน ก็เพราะว่าต้องการจะให้บทความของ tuvagroup มียอดวิวนะครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -


       วันนี้ ทีมงาน Tuvagroupo.com จะนำตัวอย่าง "ของจริง" เกี่ยวกับการเช็คสถานะสินค้า ที่ถูกส่งโดยบริษัท China Post มาให้คุณผู้อ่าน ได้อ่านกันนะครับ

        นี้คือรายการสินค้าที่ทีมงาน Tuvagroup.com สั่งซื้อให้คุณลูกค้าจากเวบ Aliexpress.com นะครับ / ทีมงานซื้อให้คุณลูกค้าเป็นจำนวนหลายรายการ / ซึ่งส่วนใหญ่ สินค้าจาก Aliexpress.com ก็จะถูกส่งด้วยการส่งฟรี ( Free Shipping ) โดยบริษัท China Post

       การส่งฟรีโดยบริษัท China Post ชอบมีปัญหาเรื่องเช็คสถานะไม่ได้อยู่เสมอ "แต่" ก็ไม่ได้หมายความว่า ทั้ง 100% จะเช็คสถานะไม่ได้นะครับ บางที บางรายการมันก็เช็คสถานะได้เหมือนกัน 

        ทีมงานก็เลยจะเอาตัวอย่างมาให้ดู เรามาเริ่มกันเลยครับ





       ภาพบน ) ทีมงานจะสุ่มเลือกรายการสินค้าที่อยู่ใกล้ๆกันนะครับ แล้วนำมาเปรียบเทียบกันเรื่องการเช็คเลข Tracking Number / โดยทีมงานเลือก 2 รายการที่อยู่ใน วงรีสีม่วง ด้านบนนี้นะครับ  


( ภาพบน ) ภาพขยาย ของรายการสินค้า ที่อยู่ใน วงรีสีม่วง ในภาพก่อนหน้านี้  


       ( ภาพบน ) จากภาพข้างบนนี้ จะเห็นได้ว่า รายการ "เสื้อ" ถูกซื้อก่อน ก็คือ ทีมงานสั่งซื้อเสื้อเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ( ตรงที่มี ขีดเส้นใต้สีเขียว ในภาพข้างบนนี้ )

       หลังจากนั้น อีก 4 วัน ซึ่งก็คือวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ( ตรงที่มี ขีดเส้นใต้สีม่วง ในภาพข้างบนนี้ ) ทีมงานถึงซื้อหน้าจอสมาร์ทโฟน

       คราวนี้ เราก็มาดูว่าเสื้อ และหน้าจอฯ ทั้ง 2 รายการที่เราซื้อในภาพข้างบนนี้  ใช้รูปแบบการส่งแบบไหน? เหมือนกันทั้ง 2 รายการไหม?
 มาดูกันครับ



      ภาพบน ) จะเห็นได้ว่า รายการสั่งซื้อเสื้อในภาพข้างบนนี้ เป็นการส่งฟรี ( คือ Free Shipping ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ) และเป็นการส่งโดย China Post ด้วย ( อยู่ด้านบนคำว่า Free Shipping ) / ซึ่งก็คือไม่ต้องจ่ายค่าส่ง  หรือค่าส่ง 0 เหรียญ ( ตรงที่มี วงกลมสีม่วง ในภาพข้างบนนี้ )

       คราวนี้ เรามาดูรายการหน้าจอสมาร์ทโฟนกันบ้าง ดังข้างล่างนี้



     ภาพบน ) รายการสั่งซื้อหน้าจอสมาร์ทโฟน ก็เหมือนกับรายการเสื้อ คือ เป็นการส่งฟรี ( คือ Free Shipping ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ) และเป็นการส่งโดย China Post ด้วย ( อยู่ด้านบนคำว่า Free Shipping ) / ซึ่งก็คือไม่ต้องจ่ายค่าส่ง  หรือค่าส่ง 0 เหรียญ ( ตรงที่มี วงกลมสีม่วง ในภาพข้างบนนี้ ) เหมือนกับรายการเสื้อ

       สาเหตุที่ทีมงานเอารายละเอียดทั้งสองรายการข้างบนนี้มาเทียบกันให้ดู ก็เพื่อให้คุณผู้อ่านเห็นว่า ทั้งสองรายการนี้ ( คือทั้งเสื้อ และหน้าจอสมาร์ทโฟน ) ก็ซื้อในเวลาไล่เลี่ยกัน คือห่างกันแค่ 4 วัน และต่างก็เป็นการส่ง แบบส่งฟรีเหมือนกันด้วย ( ตอนหลัง ผลการส่งมันจะไม่เหมือนกัน คืออันนึงของหายไปเลย อีกอันนึงไม่หาย / ดังนั้น ก่อนจะถึงขั้นตอนที่ของหาย ทีมงานก็เลยเอามาให้ดูก่อนว่า สภาพแวดล้อมของการสั่งซื้อมันเหมือนกันทั้งสองรายการ คือสั่งซื้อในเวลาไล่เลี่ยกัน และเป็นการส่งฟรีโดย China Post เหมือนกัน )

       เรามาดูกันต่อครับ



     ภาพบน ) ก่อนที่เราจะตรวจสอบสถานะของสินค้า หรือการเช็ค Tracking number เราก็ต้องรู้ไอดีของตัวสินค้าเสียก่อน / โดยตอนนี้ เราจะดูรายการซื้อเสื้อยืดก่อน

       เลขไอดีสินค้า ( คือเสื้อยืด ) นั้น ก็จะถูกวางตำแหน่งไว้ที่ ตรงที่มี ขีดเส้นใต้สีเขียว ในภาพข้างบนนี้ ซึ่งก็คือหมายเลข 67217187312754

       พอรู้ไอดีแล้ว จากนั้น เราก็เข้าไปดูที่รายละเอียด ( View Detail ) ของสินค้าชิ้นนี้  ดังข้างล่างนี้



    ภาพบน ) ข้างบนนี้คือรายละเอียด ( Order Detail ) ของการสั่งซื้อเสื้อยืดครั้งนี้ / ซึ่งคุณผู้อ่านจะเห็นว่า เป็นหมายเลขไอดีเดียวกัน ซึ่งก็คือ 67217187312754 ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ )

       ที่เราจะต้องใช้ ก็คือหมายเลขเช็คสถานะสินค้า ( Tracking Number ) ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ซึ่งก็คือ RL106550896CN

       ตัวอักษร CN ที่อยู่ด้านท้ายของเลข ( RL106550896CN ) ย่อมาจากคำว่า China / ซึ่งก็คือตัวที่บอกว่า ใช้การส่ง China Post ของประเทศจีนนั่นเอง

       จากนั้น เราก็หาเวบที่จะเอาเลข Tracking Number RL106550896CN ไปเช็คสถานะสินค้า



     ภาพบน ) กรอกเลข RL106550896CN ลงไปตรงช่องสี่เหลี่ยม ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ / จากนั้นก็กดปุ่ม Track ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้

       ก็จะได้ผลดังภาพข้างล่างนี้



     ภาพบน ) ก็คือ มันแสดงสถานะสินค้าได้ตามปกติ เหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้

       คราวนี้ เราจะมาดูหน้าจอสมาร์ทโฟนกันบ้าง ดังภาพข้างล่างนี้





     ภาพบน ) เลขไอดีสินค้า ( คือสินค้าหน้าจอสมาร์ทโฟน ) คือหมายเลข 67308792052754  ตรงที่มี ขีดเส้นใต้สีเขียว ในภาพข้างบนนี้ / จากนนั้น เราก็เข้าไปดูที่รายละเอียด ( View Detail ) ของสินค้าชิ้นนี้  ดังข้างล่างนี้ 



     ภาพบน ) ในรายละเอียด ( Order Detail ) ของการสั่งซื้อหน้าจอสมาร์ทโฟนนี้ คุณผู้อ่านจะเห็นว่า เป็นหมายเลขไอดีเดียวกัน ซึ่งก็คือ 67308792052754 ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ )

       ส่วนหมายเลขเช็คสถานะสินค้า ( Tracking Number ) ก็อยู่ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ซึ่งก็คือ RI477321648CN

       จากนั้น เราก็เอาเลข Tracking Number RI477321648CN ไปเช็คสถานะสินค้า  




     ภาพบน ) กรอกเลข RI477321648CN ลงไปตรงช่องสี่เหลี่ยม ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ / จากนั้นก็กดปุ่ม Track ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้

       ก็จะได้ผลดังภาพข้างล่างนี้  





      ภาพบน ) ครั้งแรกที่ทีมงานเห็นว่ามันเช็คเลข Tracking Number ไม่ได้นั้น ทีมงานก็ "เกือบหลงเชื่อ" ทาง China Post แล้วว่า ที่เช็คไม่ได้นั้น เพราะเวลามันนานมาแล้ว ก็เลยโละข้อมูลออกไปแล้ว ( คือ China Post แก้ตัวไว้ว่า ที่เช็คเลข Tracking Number ไม่ได้ ก็เพราะ  No shipping record in old database ตรงที่มี วงรีสีม่วง ล้อมรอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้ 

         ถ้าเราไม่ได้ซื้อสินค้าอื่นๆในช่วงระยะเวลาเดียวกัน เราก็คงจะหลงเชื่อว่าที่เช็คเลข Tracking Number ของหน้าจอสมาร์ทโฟนอันนี้ไม่ได้ ก็เป็นเพราะว่า เวลามันผ่านมานานแล้ว ทาง China Post ก็เลยไม่ได้เก็บข้อมูลไว้ ( ก็คือ เราก็จะเห็นใจ China Post ว่า เขาไม่ได้เก็บข้อมูลไว้ เพราะเป็นข้อมูลนานแล้ว )

       "แต่" บังเอิญว่า เราซื้อเสื้อยืด ในเวลาไล่เลี่ยกันกับการซื้อหน้าจอสมาร์ทโฟน  เราก็เลยรู้ว่า China Post โกหกเรา ( ที่ว่าโกหกก็คือว่า จริงๆแล้ว เลข Tracking Number มันใช้ไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว / แต่ China Post มาโกหกเราว่า ที่เช็ค Tracking Number ไม่ได้ ก็เพราะเป็นข้อมูลนานมาแล้ว ก็เลยไม่ได้เก็บข้อมูลไว้ )

       เรามาดูหลักฐานกัน ดังภาพข้างล่างนี้




     ภาพบน ) บังเอิญว่าเราซื้อสินค้า 2 รายการในภาพข้างบนนี้ ในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เราก็เลยจับโกหก China Post ได้ ก็คือว่า

       China Post บอกว่า ไม่สามารถเช็คเลข Tracking Number หน้าจอสมาร์ทโฟน ที่เราสั่งซื้อเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ( ตรงที่มี กรอบสี่เหลี่ยมสีม่วง ล้อมรอบอยู่ ) ได้ เพราะว่าข้อมูลมันนานแล้ว ทาง China Post เลยไม่ได้เก็บข้อมูลไว้


       "ถ้าอย่างนั้น" ทำไม รายการที่เราสั่งซื้อก่อนหน้านั้น ซึ่งก็คือรายการเสื้อ ที่เราซื้อเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558  ( ตรงที่มี กรอบสี่เหลี่ยมสีเขียว ล้อมรอบอยู่ ) ถึงยังเช็คเลข Track ได้ล่ะ


       คือหมายความว่า ถ้า China Post แก้ตัวว่า รายการสั่งซื้อของวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ( ตรงที่มี กรอบสี่เหลี่ยมสีม่วง ล้อมรอบอยู่ ) นั้น ไม่สามารถเช็คเลข Track ได้ เพราะเป็นข้อมูลนานแล้ว ทาง China Post เลยไม่ได้เก็บข้อมูลไว้  เป็นเรื่องจริงล่ะก็  มันก็ต้อง "ไม่สามารถเช็คเลข Track ได้ทั้งสองรายการ" ถูกต้องไหมครับ?  โดยเฉพาะ รายการเสื้อ ยิ่งไม่ควรจะเช็คเลข Track ได้ เพราะมันสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2558  ( ตรงที่มี กรอบสี่เหลี่ยมสีเขียว ล้อมรอบอยู่ ) แล้ว / คือเราสั่งซื้อเสื้อก่อนหน้าจอสมาร์ทโฟน ตั้ง 4 วัน  แต่เสื้อยังสามารถเช็คเลข Tracking Number ได้




     ภาพบน ) เอาล่ะ! ถึงแม้ทีมงานจะรู้ดีว่า China Post ชอบ "แหกตา" คือชอบโกหก เอาตัวรอดไปวันๆ แต่ทีมงานก็ยังให้ความเป็นธรรมกับ China Post อยู่

       ให้ความเป็นธรรมอย่างไร? คำตอบก็คือว่า ทีมงานจะ ไม่พูดว่า ถ้าใช้การ ส่งฟรีของ China Post แล้วของจะหายหมดทั้ง 100%

       เพราะว่า ในตัวอย่างที่ยกมาให้ดูนี้ มันก็ยังมีรายการเสื้อยืด ( ที่เราซื้อเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ) ของก็ไม่ได้หายแต่อย่างใด เพราะรายการเสื้อยืดนั้น มันเช็คเลข Tracking Number ได้ตามปกติ

       ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เราควรสรุปดังนี้ว่า




     ภาพบน ) ถ้าจะสรุปแบบให้ความเป็นธรรมกับ China Post หรือ Singapore Post ก็ควรจะเป็นการสรุปแบบข้อความในรูปข้างบนนี้นั่นเองครับ  คือ ถ้าคุณผู้อ่านเลือกการส่งฟรี หรือการส่งแบบถูก ( เช่นค่าส่ง 4 เหรียญ )  โดย China Post  หรือ Singapore Post ก็ต้องเสี่ยงดวงเอาเอง ว่าสินค้าจะหายหรือไม่  ซึ่งอาจจะไม่หายก็ได้


       "อย่าไปหลงเชื่อ" เวบรับฝากซื้อสินค้าเจ้าอื่น ที่บอกว่า รับรองผล 100% ว่าได้รับของแน่ แต่ต้องจ่ายแพงขึ้น

       เพราะถ้าจะต้องจ่ายแพงขึ้น  ก็สู้ให้คุณผู้อ่าน เอาส่วนที่ต้องจ่ายแพงขึ้นนั้น มาให้ทีมงาน Tuvagroup.com เลือกการส่งแบบที่ดีๆให้คุณ เช่นเลือกการส่งแบบ FedEx หรือ DHL จะดีกว่าครับผม



- END -