script async='async' crossorigin='anonymous' src='https://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js?client=ca-pub-4162361834395246'/> Tuvagroup: การฟ้องร้องขอเงินคืน ที่ PayPal

Wednesday, March 10, 2021

การฟ้องร้องขอเงินคืน ที่ PayPal

 

การฟ้องร้องขอเงินคืน ที่ PayPal




       เวลาเราหาซื้อสินค้าทางออนไลน์จากต่างประเทศ แล้วเราเห็นโลโก้ของ PayPal ( เหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ ) บางครั้งเราก็อาจจะเข้าใจผิดได้

       เข้าใจผิดอย่างไร? ก็คือเข้าใจผิดว่า หากซื้อสินค้าทางออนไลน์ด้วยการจ่ายเงินผ่านทาง PayPal แล้ว "ถ้าคนขายโกง" เราก็จะสามารถเรียกเงินคืนกลับมาได้

       ความจริงแล้ว มันไม่สามารถทำได้  คือหมายความว่า หากมีการโอนเงินไปให้คนขายเรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่าการจ่ายเงินครั้งนั้น สมบูรณ์ ( Compleate ) ไปแล้ว ไม่สามารถเรียกเงินคืนได้แล้ว

       ซึ่งบริษัท PayPal ขอบพูดว่า ถ้าจ่ายเงินด้วย PayPal แล้ว หากมีปัญหา จะสามารถเรียกเงินคืนได้  ซึ่งความจริงแล้ว นั่นเป็นแค่ "ทางทฤษฏี" ตามตัวหนังสือเท่านั้น   เพราะว่าใน "ทางปฏิบัติ" แล้ว ไม่สามารถทำได้  แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่ นั่นคือ ถ้าเราซื้อสินค้าจากเวบอีเบย์ เราก็จะสามารถเรียกเงินคืนได้ ในกรณีที่ถูกคนขายโกง

       เพื่อให้เข้าใจดียิ่งขึ้น ทีมงานขอแบ่งประเภทของการโอนเงินด้วย PayPal ออกเป็น 2 ประเภท ดังข้างล่างนี้นะครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

1.การโอนเงินทาง PayPal แบบที่เรียกเงินคืนได้

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     


+



      ( ภาพบน ) ในกรณีที่เราชำระเงินให้คนขายด้วย PayPal โดยซื้อสินค้าออนไลน์จากเวบอีเบย์นั้น  อย่างนี้ เราได้รับความคุ้มครองนะครับ

       คือหมายความว่า หากเราโอนเงินให้คนขายไปแล้ว ต่อมาภายหลัง เราถูกคนขายโกง เช่น ไม่ส่งสินค้าให้  เราก็สามารถเรียกเงินคืนได้เต็มจำนวนเลย

       การเรียกเงินคืนได้เต็มจำนวน ( ในกรณีที่ถูกคนขายโกง ) นี่แหละครับ คือการที่เราได้รับความคุ้มครองการจ่ายเงินของเรา


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

2.การโอนเงินทาง PayPal แบบที่เรียกเงินคืน "ไม่ได้"

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

+



      ( ภาพบน ) คราวนี้ ถ้าเราใช้การจ่ายเงินผ่านทาง PayPal เหมือนเดิม "แต่" เราไม่ได้ซื้อสินค้าที่เวบอีเบย์ คือเราไปซื้อสินค้าที่เวบอื่น "ที่ไม่ใช่เวบอีเบย์" ( แต่เรายังใช้การจ่ายเงินด้วย PayPal อยู่ )

       ในกรณีเช่นนี้ หากโดนคนขายโกง เราจะ "ไม่สามารถเรียกเงินคืนได้เลยแม้แต่บาทเดียว" แม้ว่าเราจะจ่ายด้วย PayPal ก็ตาม 

       และทีมงานขอย้ำคำพูดของทีมงานให้ฟังอีกทีนะครับว่า การที่บอกว่าใช้ PayPal ซื้อสินค้าจากเวบไหนก็ได้ แล้วจะได้รับความคุ้มครองในกรณีที่ถูกคนขายโกงนั้น เป็นแค่ "ทางทฤษฏี" เท่านั้น เพราะใน "ทางปฏิบัติ" เราจะได้รับความคุ้มครองก็เฉพาะตอนที่ซื้อสินค้าจากเวบอีเบย์อย่างเดียว

       พูดง่ายๆว่า หากเราใช้การจ่ายเงินด้วย PayPal แต่ว่าเราไปซื้อสินค้าออนไลน์จาก เวบอื่น "ที่ไม่ใช่เวบอีเบย์" นั้น ใน "ทางปฏบัติ" เราจะไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

ระบบของบริษัท PayPal

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     



       ทีมงานนำสถานะการณ์ของจริง ( ไม่ใช่เรื่องสมมติ ) เคสหนึ่งเอามาให้ดูนะครับ ซึ่งเคสนี้ เป็นเคสที่ทีมงานซื้อสินค้าจากเวบหนึ่ง ที่ "ไม่ใช่เวบอีเบย์" ให้ลูกค้า โดยทีมงานชำระเงินด้วย PayPal ไป 

       ต่อมา ปรากฏว่าคนขายโกง คือไม่ส่งสินค้าให้เรา และไม่มีการตอบกลับใดๆด้วย

       ใน "ทางทฤษฏี" ทางบริษัท PayPal บอกว่าสามารถฟ้องร้องเรียกเงินคืนได้ 

       แต่ใน "ทางปฏิบัติ" มาดูกันว่า บริษัท PayPal เขาทำอย่างไร? มาดูรายละเอียดกันครับ ... ( ข้างล่างนี้ )


ภาพบน ) หน้าเวบของบริษัท PayPal

      ( ภาพบน ) เหตุการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้น ( ไม่ใช่การสมมติ ) ก็คือ ทีมงานได้สั่งซื้อสินค้าให้คุณลูกค้าท่านหนึ่ง แล้วต่อมา ปรากฏว่าผ่านไปนานแล้วก็ยังไม่ได้รับเลข Tracking Number  และเมื่อติดต่อไปหาคนขายแล้ว คนขายก็ "เงียบ"  ไม่ตอบอะไรกลับมาเลย  /  ซึ่งอาการแบบนี้ ( คืออาการที่คนขายไม่ให้เลข Tracking Number และถามอะไรไป ก็ไม่ตอบ ) มันเป็นสัญญาณบอกเราแล้วว่า คนขายคนนี้ตั้งใจโกงเราแล้ว ซึ่งประเด็นสำคัญๆในเคสนี้ก็คือว่า ... ( ข้างล่างนี้ ) 

 * * *  ในเคสนี้ ทีมงานชำระเงินให้คนขายด้วยการชำระผ่านช่องทาง PayPal


* * * และเนื่องมาจากว่าทีมงาน "เคยได้ยิน" มาว่าถ้าใช้ PayPal เป็นช่องทางชำระเงิน แล้วต่อมาภายหลัง โดนคนขายโกงเข้าล่ะก็ ทาง PayPal ก็จะตามเรื่องให้เรา ( คือจะดึงเงินคืนจากคนขาย ( ที่ขี้โกง ) คนนั้น กลับคืนมาให้เรา )


* * * ดังนั้น ทีมงานจึง Log in เข้ามาในเวบ PayPal แล้วแจ้งเหตุให้ทาง PayPal ทราบว่าทีมงานโดนโกงเงิน และขอให้ทางบริษัท PayPal ช่วยรับเรื่องฟ้องร้องจากทีมงาน นำไปดำเนินการฟ้องร้องเอาเงินคืนจากคนขาย เอากลับมาให้ทีมงานหน่อย ( แล้วทีมงานจะได้เอาเงินที่ได้รับคืนมานี้ กลับไปคืนให้คุณลูกค้าอีกที )


 * * * เมื่อแจ้งเหตุเรียบร้อยแล้ว ทางเวบ PayPal ก็ใช้ระบบ "ตอบอัตโนมัติ" ตอบกลับมา เหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ 

ภาพบน ) ให้ดูเฉพาะตรงส่วนที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้



ภาพบน ) ภาพขยายของส่วนที่อยู่ใน กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ในภาพก่อนหน้านี้

      ( ภาพบน ) ภาพข้างบนนี้คือ ระบบ "ตอบอัตโนมัติ" ของบริษัท PayPal ที่ตอบอีเมลกลับมาหาทีมงาน

       คือหมายความว่า ทีมงานพิมพ์แจ้งเหตุไปให้ทางเวบ PayPal ทราบว่า ทีมงานถูกโกงโดยใคร? อย่างไร? เมื่อวันที่เท่าไร? หมายเลขธุรกรรมการโอนเงินคืออะไร? ฯลฯ

       หลังจากนั้น ก็จะมีระบบ "ตอบอัตโนมัติ" ตอบอีเมลกลับมาหาทีมงาน  /  โดยอีเมลของบริษัท PayPal ที่ตอบกลับมานั้น มีหน้าตาเหมือนในภาพข้างบนนี้

       เนื้อหาในอีเมลข้างบนนี้บอกว่าให้หาวิธีแก้เอาเอง ตามคำแนะนำที่อยู่ในอีเมลข้างบนนี้ แต่ก็มีคำพูดที่พูดว่า ทีมงานสามารถทำการฟ้องร้องคนขายได้ ภายในเวลาไม่เกิน 180 วันนับจากวันที่คนขายรับเงินไปเรียบร้อยแล้ว ( ซึ่งในเคสนี้ คนขายก็รับเงินไปเรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่ทีมงานสั่งซื้อแล้ว ) 

       ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าทีมงานต้องการจะฟ้องร้องเอาเงินคืนจากคนขายอยู่แล้ว  ดังนั้น ทีมงานจึงส่งข้อมูลในการฟ้องร้องไปให้บริษัท PayPal เช่นให้ข้อมูลว่า คนขายรับเงินไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่เท่าไร? คนขายคือใคร? การโกงที่ว่านั้น ก็คือการไม่ส่งสินค้าให้ ไม่ให้เลข Tracking Number ,การที่ถามอะไรคนขายไป คนขายก็ไม่ตอบ ฯลฯ

       หลังจากที่ทีมงานส่งข้อมูลสำหรับการฟ้องร้องไปให้บริษัท PayPal แล้ว เรามาดูกันครับว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อจากนั้น 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

คำตอบจากบริษัท PayPal

ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 09.42 น.

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     







       ( ภาพบน ) ขอพูดซ้ำอีกทีนะครับ เพราะว่าทีมงานกำลังเรียงลำดับเหตุการณ์ให้คุณผู้อ่าน ได้อ่านอีกครั้งเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น 

       คือว่า ทีมงานโดนคนขายเบี้ยว ทีมงานก็เลยแจ้งเหตุไปทางบริษัท PayPal เพื่อทำการฟ้องร้องขอเงินคืนจากคนขาย

       ต่อมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 09.42 น. ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ )  ก็มีอีเมลมาจากบริษัท PayPal ตอบกลับมาหาทีมงาน ดังที่เห็นในภาพข้างบนนี้

       โดยเนื้อหาในอีเมลก็บอกว่าทีมงานสามารถฟ้องร้องคนขายได้ 

       ในเมื่อเนื้อหาในอีเมลข้างบนนี้ บอกว่าทีมงานสามารถฟ้องร้องคนขายได้  ทีมงานก็เลยจัดส่งข้อมูล เพื่อจะทำการฟ้องร้องคนขายตามขั้นตอนไป  /  เดี๋ยวเรามาดูกันต่อว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้บ้าง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

คำตอบจากบริษัท PayPal

ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 11.38 น.

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     






       ( ภาพบน ) หลังจากทีมงานส่งข้อมูลที่จะใช้ในการฟ้องร้องไปให้บริษัท PayPal แล้ว สักพัก ก็มีอีเมลจากบริษัท PayPal ตอบกลับมาหาทีมงาน เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 11.38 น. ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) คือตอบกลับมาในวันเดียวกันนั้นเลย

       ซึ่งเมื่อทีมงานอ่านข้อความในอีเมลฉบับข้างบนนี้แล้ว ก็ต้อง "ตกใจ" เพราะข้อความในอีเมลนั้น เป็นระบบ "ตอบอัตโนมัติ" เหมือนกับอีเมลฉบับแรกเลย ( คือเนื้อหาเหมือนในอีเมลฉบับก่อนหน้านี้ )

       คือเนื้อหาในอีเมลนั้น ก็บอกเหมือนเดิมว่าทีมงานสามารถฟ้องร้องคนขายได้ 

       การที่ทีมงานเห็นข้อความตอบกลับจากบริษัท PayPal ( ที่ปรากฏในภาพข้างบนนี้ ) "ซ้ำ" กับอีเมลฉบับก่อนหน้านี้  ทีมงานก็เลยคิดว่า อาจจะมีความผิดพลาดของระบบ PayPal ก็ได้ ดังนั้น ทีมงานจึงตั้งใจทิ้งเวลาไว้ 3 วัน แล้วจะเขียนอีเมลส่งข้อมูลการฟ้องร้องไปใหม่

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

คำตอบจากบริษัท PayPal

ของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 19.24 น.

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     







      ( ภาพบน ) เมื่อเวลาผ่านไป 3 วันนับจากวันที่ทีมงานได้รับอีเมลของบริษัท PayPal ที่เห็นในภาพก่อนหน้านี้นั้น ( ซึ่งก็คือวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 11.38 น. )  /  ทีมงานก็ส่งข้อมูลสำหรับการฟ้องร้องส่งไปให้บริษัท PayPal ใหม่อีกครั้ง

       จากนั้น ก็มีอีเมลจากบริษัท PayPal ตอบกลับมาหาทีมงาน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 19.24 น. ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) คือตอบกลับมาในวันเดียวกันนั้นเลย 

       ซึ่งเมื่อทีมงานอ่านข้อความในอีเมลฉบับข้างบนนี้แล้ว ก็ต้อง "ตกใจอีกครั้ง" เพราะข้อความในอีเมลนั้น เป็นระบบ "ตอบอัตโนมัติ" เหมือนกับอีเมลฉบับก่อนหน้านี้เลย 

       คือเนื้อหาก็บอกว่าทีมงานสามารถฟ้องร้องคนขายได้ ( พูดเหมือนในอีเมลฉบับก่อนหน้านี้ ) 

       ทีมงานก็เลยพยายามจะส่งข้อมูลสำหรับการฟ้องร้องอีกครั้ง และพยายามสอบถามทางเวบ PayPal ว่าตัวทีมงานเองนั้น "ทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?" บริษัท PayPal ถึงไม่ยอมรับเรื่องฟ้องจากทีมงาน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     

คำตอบจากบริษัท PayPal

ของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 19.44 น.

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -     







       ( ภาพบน ) ทีมงานเขียนอีเมลไปถามบริษัท PayPal ว่า ทีมงาน "ทำอะไรผิดหรือเปล่า" ทางบริษัท PayPal ถึงไม่ยอมรับเรื่องฟ้องร้องจากทีมงาน

       จากนั้น ก็มีอีเมลจากบริษัท PayPal ตอบกลับมาหาทีมงาน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 19.44 น. ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) คือตอบกลับมาในวันเดียวกันนั้นเลย

       และเนื้อหาในอีเมลก็ยังเหมือนเดิม คือบอกว่าทีมงานสามารถฟ้องร้องคนขายได้ ( พูดเหมือนในอีเมลฉบับก่อนหน้านี้ ) 

       โดยเนื้อหาในอีเมลฉบับข้างบนนี้ ไม่มีการตอบคำถาม ที่ทีมงานถามไปว่า ทีมงาน "ทำอะไรผิดหรือเปล่า" ทางบริษัท PayPal ถึงไม่ยอมรับเรื่องฟ้องจากทีมงาน

       คือหมายความว่า ยังไม่รับเรื่องฟ้อง ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ควร "ตอบคำถาม" ที่ทีมงานถามไป ไม่ใช้ใช้ระบบ "ตอบอัตโนมัติ" ตอบกลับมาอย่างเดียว


       ทีมงานก็เลยลองแก้ข้อมูลการฟ้องร้อง และลองถามเรื่องอื่นๆไป  /  คือทีมงานพยายามหาช่องทางพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ที่เป็น "คนจริงๆ" ( หมายถึงเจ้าหน้าที่ของบริษัท PayPal ) ไม่ใช่ระบบ "ตอบอัตโนมัติ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

คำตอบจากบริษัท PayPal

ของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 20.14 น. 


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -        





      ( ภาพบน ) ก่อนจะได้รับอีเมลฉบับข้างบนนี้นั้น ทีมงานได้ลองแก้ข้อมูลการฟ้องร้อง และลองถามเรื่องอื่นๆไป  เพื่อหาช่องทางพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ที่เป็น "คนจริงๆ" ( หมายถึงเจ้าหน้าที่ของบริษัท PayPal ) ไม่ใช่ระบบ "ตอบอัตโนมัติ

       จากนั้น ก็มีอีเมลจากบริษัท PayPal ตอบกลับมาหาทีมงาน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 20.14 น. ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) คือตอบกลับมาในวันเดียวกันนั้นเลย

       ซึ่งเนื้อหาในอีเมลก็ยังเหมือนเดิม คือบอกว่าทีมงานสามารถฟ้องร้องคนขายได้ ( พูดเหมือนในอีเมลฉบับก่อนหน้านี้ ) 

       โดยเนื้อหาในอีเมลฉบับข้างบนนี้ ไม่มีพูดคุยตอบกลับโดย "คนจริงๆ" ( หมายถึงเจ้าหน้าที่ของบริษัท PayPal ) แต่อย่างใด  /  เนื้อหาในอีเมล เป็นข้อความที่มาจากระบบ "ตอบอัตโนมัติ" เหมือนเดิม 

       อย่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการคุยกับก้อนหิน หรือฝาผนังบ้านเลย เพราะก้อนหิน กับฝาผนังบ้าน เราพูดคุยอะไรไป มันก็ไม่ตอบอะไรกลับมา

       คราวนี้ ทีมงานจะทดลองอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการเอาวิธีทั้งหมดที่ทีมงานทดลองไว้ก่อนหน้านี้  รวมไว้ในการทดลองครั้งสุดท้ายนี้ครั้งเดียว นั่นคือ ... ( ข้างล่างนี้ )  

* * * ทิ้งระยะเวลา 3 วัน แล้วค่อยเขียนอีเมลไปหาบริษัท PayPal อีกครั้ง


* * * พิมพ์ข้อมูลสำหรับการฟ้องร้องใหม่อีกครั้ง โดยพยายามให้ข้อมูลอย่างละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะหาได้     


* * * ถามไปว่าทีมงาน "ทำอะไรผิด" บริษัท PayPal ถึงไม่รับเรื่องการฟ้องร้องจากทีมงาน 


 * * * แกล้งถามประเด็นอื่นๆ เช่น ถามไปในอีเมลว่าช่วงนี้มีงานเยอะไหม?  /  เพื่อจะได้มีประเด็นที่ทางบริษัท PayPal ไม่สามารถใช้ระบบ "ตอบอัตโนมัติ" ตอบกลับมาได้  ต้องใช้ "คนจริงๆ" มาตอบคำถามนี้ ( ที่ทีมงานถามไปว่า ช่วงนี้งานเยอะไหม? ) 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

คำตอบจากบริษัท PayPal

ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 00.58 น.


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -        








       ( ภาพบน ) ก่อนจะได้รับอีเมลฉบับข้างบนนี้นั้น ทีมงานได้พยายามทำดังนี้คือ

* * * ทิ้งระยะเวลา 3 วัน ( นับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ) แล้วค่อยเขียนอีเมลไปหาบริษัท PayPal อีกครั้ง 


* * * พิมพ์ข้อมูลสำหรับการฟ้องร้องใหม่อีกครั้ง โดยพยายามให้ข้อมูลอย่างละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะหาได้   


 * * * ถามไปว่าทีมงาน "ทำอะไรผิด" บริษัท PayPal ถึงไม่รับเรื่องการฟ้องร้องจากทีมงาน 


 * * * แกล้งถามประเด็นอื่นๆ เช่น ถามไปในอีเมลว่าช่วงนี้มีงานเยอะไหม?  /  เพื่อจะได้มีประเด็นที่ทางบริษัท PayPal ไม่สามารถใช้ระบบ "ตอบอัตโนมัติ" ตอบกลับมาได้  ต้องใช้ "คนจริงๆ" มาตอบคำถามนี้ ( ที่ทีมงานถามไปว่า ช่วงนี้งานเยอะไหม? ) 


       จากนั้น ก็มีอีเมลจากบริษัท PayPal ตอบกลับมาหาทีมงาน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 00.58 น. ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) 

       และเนื้อหาในอีเมลก็ยังเหมือนเดิม คือบอกว่าทีมงานสามารถฟ้องร้องคนขายได้ ( พูดเหมือนในอีเมลฉบับก่อนหน้านี้ ) 

       โดยเนื้อหาในอีเมลฉบับข้างบนนี้ ไม่มีพูดคุยตอบกลับโดย "คนจริงๆ" ( หมายถึงเจ้าหน้าที่ของบริษัท PayPal ) แต่อย่างใด  /  เนื้อหาในอีเมล เป็นข้อความที่มาจากระบบ "ตอบอัตโนมัติ" เหมือนเดิม 

       ณ.ตอนนี้ ก็สรุปได้แล้วว่า บริษัท PayPal ไม่รับเรื่องฟ้องร้องจากเรา  โดยวิธีไม่รับเรื่องฟ้องร้องนั้น ก็คือ ใช้ระบบ "ตอบอัตโนมัติ" ตอบกลับมาหาเราอย่างเดียว


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

ผ่านไป "2 เดือน" ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -        

      ตอนที่ทีมงานกำลังเขียนหน้าเวบอยู่นี้ เวลาก็ผ่านไปจะสองเดือนแล้ว และทีมงานก็ไม่เห็นข้อความใดๆส่งมาจากบริษัท PayPal เพิ่มเติมเลย

       ทีมงานพยายามคิดในแง่ดีว่า บางที เดือนกุมภาพันธ์ ( คือช่วงเวลาที่ทีมงานเขียนอีเมลไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด ) งานของบริษัท PayPal อาจจะเยอะก็ได้  เขาก็เลยไม่มีเวลาดำเนินการรับเรื่องฟ้องร้องจากเรา ก็เลยต้องใช้ระบบ "ตอบอีเมลอัตโนมัติ" ตอบอีเมลเรากลับมา 

       แต่ความจริง ทีมงานแล้ว "คิดผิด"  /  ที่พูดว่าทีมงาน "คิดผิด" ก็เพราะว่า จริงๆแล้วน่าจะเป็นนโยบายของบริษัท PayPal มากกว่า ที่ไม่ยอมรับเรื่องที่ทีมงานแจ้งไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์  ไม่ใช่ว่างานของบริษัท PayPal เยอะจนไม่มีเวลารับเรื่องฟ้องร้องจากเราแต่อย่างใด

       เพราะว่า ถ้านโยบายบริษัท PayPal เขาจะรับเรื่องฟ้องร้องจากเรา นี่ก็ผ่านไป "2 เดือน" แล้ว ทางบริษัท PayPal ก็น่าจะรับเรื่องฟ้องร้องจากเราได้แล้ว หรือไม่ ก็ควรจะมีข้อความอย่างอื่น ( เช่นการแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่รับเรื่องของเราตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ) ตอบกลับมาบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาผ่านไป "2 เดือน" แล้วก็ยังเงียบเหมือนเดิม 


       ( ภาพบน ) ก็คือว่า ถ้าทีมงานยังไม่ได้ถามอะไรไปเพิ่มเติม  ไอ้เจ้าหน้า Message Center ก็จะค้างเหมือนในภาพข้างบนนี้ไปตลอดกาล  คือจะไม่มีการเคลื่อนไหว หมายถึงจะไม่มีอีเมลจาก PayPal ที่ควรจะบอกว่า "เรื่องที่คุณแจ้งเรามาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้น เรารับเรื่องไว้แล้ว หรือพูดว่า เราไม่สามารถรับเรื่องได้ เพราะ... บลา...บลา...บลา...  /  มันจะไม่มีข้อความอะไรแบบนั้น โผล่เข้ามาใน Message Center ในภาพข้างบนนี้เลย 

       หรือเมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือนแล้ว ถ้าทีมงานถามไปว่า พร้อมจะรับเรื่องหรือยัง? ก็รับรองได้เลยว่า ทีมงานก็จะได้อีเมลตอบกลับแบบ "ตอบอัตโนมัติ" จากบริษัท PayPal อีกว่า ทีมงานสามารถฟ้องร้องได้ ( ข้อความเหมือนเดิมทุกประการ )

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

มันคือความพยายามที่ไร้ผล

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -        

      คุณลูกค้าบางท่าน ที่ฝากทีมงานซื้อสินค้าจากต่างประเทศให้ และให้ใช้การจ่ายด้วย PayPal แล้วต่อมา ถูกคนขายโกง ไม่ส่งของให้ แล้วมาปรึกษาทีมงานว่าทำอย่างไรจะได้เงินคืน 

       ทีมงานก็ตอบกลับไปว่า "ไม่สามารถเรียกเงินคืนได้" เพราะว่าบริษัท PayPal เขาไม่รับเรื่อง

       แม้คุณลูกค้าจะ "เถียง" ทีมงานว่า บริษัท PayPal เขาจะไม่รับเรื่องได้อย่างไร ในเมื่อบริษัท PayPal เขาจะมีสโลแกน มีการโฆษณาว่าตัวบริษัทเอง ( หมายถึง บริษัท  PayPal ) "สามารถจัดคืนเงินให้กับลูกค้าได้ ในกรณีที่ถูกคนขายโกง"
  และคุณลูกค้าก็อาจจะพูดกับทีมงานว่า ทีมงานได้ลอง "พยายาม" แจ้งไปทางบริษัท PayPal ให้หรือยัง? คำตอบก็คือ ... ( ข้างล่างนี้ )


      ( ภาพบน ) ทีมงานขอบอกว่า คำพูดของบริษัท PayPal ที่ว่า "สามารถจัดคืนเงินให้กับลูกค้าได้ ในกรณีที่ถูกคนขายโกง" นั้น มันเป็นแค่ทาง "ทางทฤษฏี" เท่านั้น

       เพราะใน "ทางปฏบัติ" ทางบริษัท PayPal เขาไม่รับเรื่องฟ้องร้องเราตั้งแต่ต้นแล้ว

       คือเรา "ส่งเรื่องฟ้องได้ แต่เขาไม่รับเรื่อง" ( ส่งได้ แต่ไม่รับ 

       ก็เหมือนในเคสที่เอามาให้ดูในหน้าเวบนี้ ที่ทีมงานพยายามติดต่อกับบริษัท PayPal ตั้งหลายครั้ง  ( ปรากฏอยู่ตรงบริเวณที่มี ปีกกาสีม่วง ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้ )  แต่ทางบริษัท PayPal ก็ไม่ได้รับเรื่องฟ้องร้องจากทีมงานแต่อย่างใด 


       ทีมงานถึงพูดว่า มันคือความพยายามที่ไร้ผล ในการที่เราจะฟ้องร้องขอเงินคืนจากผู้ขาย โดยให้ทางบริษัท PayPal ดำเนินการให้เรา 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

ทิ้งท้าย 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -        



+



      ( ภาพบน ) ถ้าคุณลูกค้าซื้อซื้อสินค้า โดยการจ่ายด้วย PayPal แล้วต้องการ "ความคุ้มครอง" ในกรณีที่ถูกคนขายโกงล่ะก็  ขอให้คุณ ซื้อที่เวบอีเบย์เท่านั้น นะครับ  รับรองปลอดภัยแน่นอน คือถ้าคุณถูกคนขายโกง ไม่ส่งสินค้าให้ คุณก็จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนครับ ขอเพียงแต่ว่า คุณต้องฟ้องร้องในเวลาที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งทางเวบอีเบย์จะเป็นผู้กำหนดมาว่า ลูกค้ามีระยะเวลาฟ้องร้องไม่เกินวันที่เท่าใดหลังจากโอนเงินให้คนขายไป ( ดูเป็นเคสๆไปครับ ) 


- END -