( ภาพบน ) ตามปกติ เวลาที่เราต้องการสินค้าจากคนขาย เราก็ต้องโอนเงินให้คนขายก่อน ถูกไหมครับ? คราวนี้ไอ้เจ้าการโอนเงินด้วยระบบ PayPal นั้น มันมีอยู่ 2 อย่าง แบบนี้คือ
การโอนเงินแบบที่ 1 - คือการโอนแบบส่งตรงให้คนขายเลย หรือที่ใช้ภาษาอังกฤษว่า Send Money ซึ่งวิธีนี้ มีข้อดีก็คือว่า เราไม่ต้องรอใบเรียกเก็บเงิน ( หรือที่เรียกว่าการรอใบอินวอยซ์ ( Invoice ) ) จากคนขายเลย / คือถ้าเงินเราพร้อม เราก็โอนเงินให้คนขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะโอนตอนไหนก็ได้
ขอแทรกนิดนึงครับ
ทีมงานจะแสดงให้ดูนะครับว่า การโอนเงินแบบที่ 1 ที่เรียกว่าการ Send Money นั้น เขาทำกันอย่างไร?
การโอนเงินแบบที่ 1 - คือการโอนแบบส่งตรงให้คนขายเลย หรือที่ใช้ภาษาอังกฤษว่า Send Money ซึ่งวิธีนี้ มีข้อดีก็คือว่า เราไม่ต้องรอใบเรียกเก็บเงิน ( หรือที่เรียกว่าการรอใบอินวอยซ์ ( Invoice ) ) จากคนขายเลย / คือถ้าเงินเราพร้อม เราก็โอนเงินให้คนขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะโอนตอนไหนก็ได้
ขอแทรกนิดนึงครับ
ทีมงานจะแสดงให้ดูนะครับว่า การโอนเงินแบบที่ 1 ที่เรียกว่าการ Send Money นั้น เขาทำกันอย่างไร?
( ภาพบน ) เมื่อเข้ามาที่หน้าเวบหน้าแรกของ PayPal แล้ว ก็ให้คลิ๊กไปที่ปุ่ม เข้าสู่ระบบ ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ จากนั้นก็ให้คลิ๊กไปที่ปุ่ม ชำระเงิน ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้
จากนั้นก็ให้คลิ๊กไปที่คำว่า "ชำระเงินได้ในไม่กี่วินาที" ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้
จากนั้นก็ให้กรอกชื่อบัญชี PayPal ของคนรับเงิน ( ซึ่งก็คือคนขายสินค้านั่นเอง ) ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ( สมมติว่าคนขายมีบัญชี PayPal ชื่อ tuvayanon@outlook.com นะครับ )
จากนั้นก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม ถัดไป ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
* * * หมายเหตุ - การจะโอนเงินแบบ Send Money ที่คุณผู้อ่านกำลังดูอยู่นี้ จะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้โอน ( หมายถึงเรา ) ต้องรู้บัญชี PayPal ของผู้รับโอน ( หมายถึงคนขายสินค้า ) ก่อนนะครับ เราถึงจะโอนเงินเข้าบัญชี PayPal ของคนขายได้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้
จากนั้นก็ให้กรอกจำนวนเงินที่ต้องการจะโอนลงไปบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีม่วง ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้
จากนั้น ก็ให้คลิ๊กไปที่ปุ่ม ดำเนินการต่อ ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้
จากนั้นก็ให้คลิ๊กไปที่ปุ่ม ชำระเงินทันที ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้
ถ้าคุณผู้อ่านได้เห็นหน้าเวบแบบในภาพข้างบนนี้แล้ว ก็แสดงว่าการโอนเงินยอด 5 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ไปให้คนขายสินค้าที่ใช้ชื่อบัญชี PayPal ว่า tuvayanon@outlook.com ในครั้งนี้ ได้สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้วครับ
ทุกขั้นตอนที่เอามาให้ดูในครั้งนี้ ก็คือการส่งเงินให้คนขายแบบ Send Money คือส่งเงินให้คนขายตรงๆ โดยไม่ต้องใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) แต่อย่างใดนะครับ
การโอนเงินแบบที่ 2 - คือการโอนเงินตามที่คนขายเรียกเก็บเงินมา ( Money Request ) / สำหรับวิธีนี้ อยู่ๆเราจะโอนเงินให้คนขายเลยไม่ได้ จำเป็นต้องรอใบเรียกเก็บเงิน ( Imvoice ) จากคนขายก่อน
ขอแทรกนิดนึงครับ
ทีมงานจะแสดงให้ดูนะครับว่า การโอนเงินแบบที่ 2 ที่คนขายต้องส่งใบเรียกเก็บเงิน ( Imvoice ) มาให้เราก่อน เราถึงจะชำระเงินได้นั้น จะมีขั้นตอนการโอนเงินอย่างไร? ( ข้างล่างนี้ เป็นการสั่งซื้อจริงๆนะครับ "ไม่ใช่เป็นแค่การสมมติเหตุการณ์" ให้ดูนะครับ )
จากนั้นก็ให้คลิ๊กไปที่คำว่า "ชำระเงินได้ในไม่กี่วินาที" ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
จากนั้นก็ให้กรอกชื่อบัญชี PayPal ของคนรับเงิน ( ซึ่งก็คือคนขายสินค้านั่นเอง ) ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ( สมมติว่าคนขายมีบัญชี PayPal ชื่อ tuvayanon@outlook.com นะครับ )
จากนั้นก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม ถัดไป ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
* * * หมายเหตุ - การจะโอนเงินแบบ Send Money ที่คุณผู้อ่านกำลังดูอยู่นี้ จะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้โอน ( หมายถึงเรา ) ต้องรู้บัญชี PayPal ของผู้รับโอน ( หมายถึงคนขายสินค้า ) ก่อนนะครับ เราถึงจะโอนเงินเข้าบัญชี PayPal ของคนขายได้
จากนั้นก็ให้กรอกจำนวนเงินที่ต้องการจะโอนลงไปบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีม่วง ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้
จากนั้น ก็ให้คลิ๊กไปที่ปุ่ม ดำเนินการต่อ ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
จากนั้นก็ให้คลิ๊กไปที่ปุ่ม ชำระเงินทันที ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
ถ้าคุณผู้อ่านได้เห็นหน้าเวบแบบในภาพข้างบนนี้แล้ว ก็แสดงว่าการโอนเงินยอด 5 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ไปให้คนขายสินค้าที่ใช้ชื่อบัญชี PayPal ว่า tuvayanon@outlook.com ในครั้งนี้ ได้สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้วครับ
ทุกขั้นตอนที่เอามาให้ดูในครั้งนี้ ก็คือการส่งเงินให้คนขายแบบ Send Money คือส่งเงินให้คนขายตรงๆ โดยไม่ต้องใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) แต่อย่างใดนะครับ
การโอนเงินแบบที่ 2 - คือการโอนเงินตามที่คนขายเรียกเก็บเงินมา ( Money Request ) / สำหรับวิธีนี้ อยู่ๆเราจะโอนเงินให้คนขายเลยไม่ได้ จำเป็นต้องรอใบเรียกเก็บเงิน ( Imvoice ) จากคนขายก่อน
ขอแทรกนิดนึงครับ
ทีมงานจะแสดงให้ดูนะครับว่า การโอนเงินแบบที่ 2 ที่คนขายต้องส่งใบเรียกเก็บเงิน ( Imvoice ) มาให้เราก่อน เราถึงจะชำระเงินได้นั้น จะมีขั้นตอนการโอนเงินอย่างไร? ( ข้างล่างนี้ เป็นการสั่งซื้อจริงๆนะครับ "ไม่ใช่เป็นแค่การสมมติเหตุการณ์" ให้ดูนะครับ )
( ภาพบน ) ทีมงาน tuvagroup.com จะซื้อสินค้าจากเวบ ladypetrova.com ที่เห็นในภาพข้างบนนี้นะครับ
ราคาสินค้าคือ 159 เหรียญออสเตรเลีย ( $AUD ) ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) / ซึ่งเป็นราคาสินค้าอย่างเดียว โดยที่ยังไม่ได้รวมค่าส่งสินค้ามาประเทศไทย
จากนั้น ทีมงานก็เมลล์บอกคนขายว่า ต้องการซื้อสินค้าชิ้นนี้ และให้ส่งมาประเทศไทย คิดค่าส่งเท่าไร และเวลาจะชำระเงินต้องทำอย่างไร?
ซึ่งคนขายก็แจ้งกลับมาว่าค่าส่งคือ 5.55 เหรียญออสเตรเลีย ( รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็น 159 + 5.55 = 164.55 เหรียญออสเตรเลีย ) สำหรับการชำระเงินนั้น ทางคนขายจะส่ง Money Request คือส่งใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) มาให้ทีมงาน
( ภาพบน ) ต่อมาประมาณ 2 วันก็มีข้อความแจ้งว่ามีใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) มาหาทีมงาน โดยเป็นข้อความที่ปรากฏอยู่ตรงบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีม่วง ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้ ( ภาพข้างบนนี้ คือภาพบัญชี PayPal ของทีมงาน tuvagroup.com นะครับ )
จากนั้น ทีมงานก็คลิ๊กเข้าไปดู / เมื่อคลิ๊กเข้ามาดูแล้ว ก็จะเห็นใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) ที่มีหน้าตาเหมือนในภาพข้างล่างนี้
( ภาพบน ) เมื่อดูรายละเอียดในใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) ข้างบนนี้ ก็ได้ข้อมูลว่า เป็นใบเรียกเก็บเงินจากคนที่ชื่อ Petrova Hammond ที่ใช้อีเมลล์ว่า admin@ladypetrova.com ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) / ก็ทำให้เรารู้แล้วว่า เป็นคนขายสินค้าของเวบ ladypetrova.com ที่เราคุยกับคนขายเอาไว้เมื่อ 2 วันก่อน
ตรงที่ ลูกศรสีน้ำเงิน ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ บอกว่ายอดเงินที่เรียกเก็บคือ 164.55 เหรียญออสเตรเลีย ซึ่งก็ตรงกับที่เราคุยกับคนขายไว้เมื่อ 2 วันก่อน ( มาจาก ค่าสินค้า + ค่าส่งมาประเทศไทย ซึ่งก็คือ 159 + 5.55 = 164.55 เหรียญออสเตรเลีย )
หลังจากตรวจสอบทุกอย่างว่าถูกต้องแล้ว ทีมงานก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม Continue ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
* * * หมายเหตุ - การโอนเงินแบบที่ต้องรอใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) นั้น เราไม่ต้องรู้บัญชี PayPal ของผู้รับโอน ( หมายถึง คนขายสินค้า ) ก็ได้ ( ในขณะที่ ถ้าเป็นการโอนแบบ Send Money เราจะต้องรู้ปบัญชี PayPal ของคนขายเสียก่อน ถึงจะโอนเงินให้คนขายได้ ) / เหตุผลที่เราไม่จำเป็นต้องรู้บัญชี PayPal ของผู้รับโอนก็เพราะว่า ทางผู้รับโอน เขาส่งเป็นใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) มา ซึ่งในใบเรียกเก็บเงินนั้น ก็จะมีรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับการขาย ไม่ว่าจะเป็นอีเมลล์ของผู้รับโอน ,ราคาสินค้า ฯลฯ / เราไม่ต้องทำอะไรเลย ( คือไม่ต้องขวนขวาย เสาะหาบัญชี PayPal ของคนขาย เหมือนการโอนเงินในรูปแบบที่ 1 ) แค่โอนเงินให้คนขายตามที่เขาเรียกเก็บเงินมา ( ตามที่ปรากฏในใบ Invoice ในภาพข้างบนนี้ ) อย่างเดียวก็พอ
( ภาพบน ) ระบบจะพาเรามาที่หน้าเวบแบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้ ซึ่งเป็นหน้าเวบของ PayPal
จากนั้น เราก็กรอกไอดี และรหัสของ PayPal ลงไปตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ / แล้วก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม Log in ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้
และหลังจากตรวจสอบในขั้นสุดท้าย แล้วเห็นว่าทุกอย่างถูกต้องแล้ว ก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม Pay Now ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้เพื่อเป็นการโอนเงินให้คนขาย
( ภาพบน ) หน้าเวบจะเปลี่ยนไป จนมีหน้าตาเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้
ถ้าหน้าเวบของ PayPal ปรากฏให้เห็นเหมือนในภาพข้างบนนี้ นั่นก็แสดงว่า การโอนเงินให้คนขายใน รูปแบบที่ 2 ( ซึ่งก็คือการโอนเงินแบบที่คนขายต้องส่งใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) มาให้เราก่อน เราถึงจะโอนเงินให้เขาได้ ) ก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วครับ
( ภาพบน ) เวลาที่เราโอนเงินไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศนั้น เราโอนผ่านบริษัท PayPal / ซึ่งบริษัท PayPal เขาก็ไม่ได้ทำ ( ไม่ได้โอน ) ให้เราฟรีๆหรอกนะครับ เขาคิดค่าบริการด้วย / ซึ่งไอ้เจ้า "ค่าบริการ" ( ที่บริษัท PayPal คิดกับเรา ) เขาเรียกว่า Fee หรือค่าธรรมเนียมนั่นเอง
ขอแทรกนิดนึงครับ
( ภาพบน ) ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ๆตัวที่เห็นกันบ่อยๆนะครับ โดยสมมติว่าคุณผู้อ่านต้องการจะส่งเงินไปให้เพื่อน โดยยอดเงินที่ต้องการจะส่งให้เพื่อนคือ 325 บาท ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ )
ถ้าคุณผู้อ่านกำเงินสดไปที่ทำการไปรษณีย์ เป็นเงินแค่ 325 บาท แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ส่งยอดเงินนี้ไปให้เพื่อนคุณทางธนาณัติ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์คนนั้น เขาก็คงไม่ทำให้คุณหรอกครับ!
ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ทำให้?
( ภาพบน ) ถ้าเรากำเงินสด 325 บาท ไปที่ทำการไปรษณีย์แล้วจะส่งธนาณัติไปให้เพื่อน 325 บาท โดยไม่เสียค่าบริการอะไรเลยนั้น เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เขาก็ไม่ส่งธนาณัติไปให้เพื่อนของคุณแน่นอน
ถ้าจะให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ส่งธนาณัติให้เพื่อนคุณ คุณก็ต้องเสียค่าบริการ แยกต่างหากอีก 10.70 บาท ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ )
( ภาพบน ) นั่นก็หมายความว่า ถ้าเราจะส่งธนาณัติให้เพื่อน 325 บาท เราจะต้องกำเงินสดไปที่ทำการไปรษณีย์ 335.70 บาท ( มาจาก 325 + 10.70 บาท ) / แล้วเอาเงิน 335.70 บาทนี้แหละ ยื่นใส่มือให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ทั้งหมด / แล้วเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เขาถึงจะส่งธนาณัติ 325 บาทไปให้เพื่อนเรา และหักค่าบริการ 10.70 บาทเก็บไว้กับบริษัทไปรษณีย์ไทยเอง
การโอนเงินไปให้เพื่อนทางธนาณัติ ก็คือการ "จ้างคนอื่น" ให้ทำการโอนเงินให้เรา ซึ่ง "คนอื่น" ที่ว่านี้ ก็คือบริษัทไปรษณีย์ไทยนั่นเอง
( ภาพบน ) การที่เราจะโอนเงินไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศ มันก็เหมือนกับการที่เราจะโอนเงินให้เพื่อนทางธนาณัตินั่นเอง คือต้องมีการ "จ้างคนอื่น" / โดยคำว่า "คนอื่น" ที่ว่านี้ ก็คือบริษัท PayPal
นั่นก็หมายความว่า เวลาที่ทีมงานจะโอนเงินไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศนั้น ทีมงานก็ต้องจ้างให้บริษัท PayPal ทำหน้าที่โอนเงินไปต่างประเทศให้
และเวลาที่บริษัท PayPal เขาโอนเงินของเราไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศนั้น เขาก็ ไม่ได้บริการเราฟรีๆ เขาก็คิดค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียม กับเรา เหมือนกับที่บริษัทไปรษณีย์ไทยคิดค่าบริการกับเรา ตอนที่เราให้บริษัทไปรษณีย์ไทยส่งธนาณัติให้เพื่อนเรานั่นเองครับ
สรุปว่า ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ก็คือการอธิบายให้คุณเข้าใจว่า ทำไมถึงต้องมี Fee หรือ "ค่าธรรมเนียม" เกิดขึ้นตอนโอนเงินด้วย PayPal ด้วย / ซึ่งคำตอบก็คือว่า Fee หรือ "ค่าธรรมเนียม" นั้น ก็คือค่าบริการ ที่บริษัท PayPal คิดกับเรา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่เราให้บริษัท PayPal โอนเงินไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศนั่นเองครับ
( ภาพบน ) ย้อนกลับมาที่คำถามเดิมอีกครั้ง ( ข้างบนนี้ ) / ซึ่งการจะตอบคำถามข้างบนนี้ได้ ทีมงานก็จะให้ ฟังจากปากของคนขายเอง เลยนะครับ เรามาดูกันครับ ( ดูในภาพข้างล่างนี้ )
( ภาพบน ) ข้างบนนี้คือสินค้าที่ทีมงานต้องการจะสั่งซื้อจากผู้ขายนะครับ โดยทีมงานได้เมลล์ไปถามคนขายดังเมลล์ "ของจริง" ข้างล่างนี้ ( ไม่ใช่เหตุการณ์สมมตินะครับ ที่เอามาให้ดูนี้ เป็นภาพสินค้า และภาพเมลล์ตัวจริง เป็นการสนทนาจริงๆทั้งหมด )
( ภาพบน ) ข้างบนนี้ คือเมลล์ที่ทีมงาน tuvagroup.com เขียนไปหาคนขายเพื่อจะสอบถามเกี่ยวกับราคาสินค้า ( สินค้าในที่นี้ ก็คืออาร์ม หรือเครื่องหมายหน่วยรบ ที่คุณเห็นในภาพก่อนหน้านี้ ( ที่มีพื้นหลังสีแดงๆนั่นแหละครับ ) ) และค่าส่งมาประเทศไทย พร้อมทั้งวิธีชำระเงินนะครับ
( ภาพบน ) ข้างบนนี้ คือเมลล์ที่ทางคนขายตอบกลับมาเกี่ยวกับค่าสินค้าและค่าส่งมาประเทศไทย รวมถึงวิธีการชำระเงินนะครับ
ข้อความทั้งหมดในเมลล์ข้างบนนี้ คุณผู้อ่านไม่ต้องอ่านหมดก็ได้ครับ เพราะว่าส่วนที่สำคัญจริงๆ ที่ทีมงานจะใช้ในการอธิบายนั้น มันจะเป็นส่วนเล็กๆของเมลล์ ตรงที่อยู่ในบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ในภาพข้างล่างนี้นะครับ
( ภาพบน ) ประเด็นสำคัญที่ทีมงานจะนำมาใช้อธิบายให้คุณผู้อ่านฟัง มันจะอยู่ตรงบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้นะครับ
เดี๋ยวทีมงานจะเอาเฉพาะส่วนที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้ มาพูดนะครับ
( ภาพบน ) ข้างบนนี้ คือส่วนของข้อความในเมลล์ฉบับที่อยู่ในภาพก่อนหน้านี้ ที่อยู่ตรงบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ในเมลล์ ในภาพก่อนหน้านี้นะครับ
เอาล่ะครับ เรามาดูรายละเอียดในข้อความนี้กัน
( ภาพบน ) ส่วนแรก คือบรรทัดบนสุด ซึ่งก็คือส่วนที่อยู่ในบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้นะครับ
ในส่วนแรกนี้ เป็นข้อความที่บอกเราว่า คนขายเขารับการชำระค่าสินค้าด้วยการจ่ายผ่านทาง PayPal ได้ / โดยถ้าลูกค้าสนใจจะจ่ายด้วย PayPal ก็ให้โอนเงินเข้าบัญชี PayPal ของเขา ที่ชื่อ Jack@LJMilitaria.com
( ภาพบน ) ส่วนที่สอง คือบรรทัดที่สอง ที่อยู่ในภาพข้างบนนี้ / ซึ่งก็คือส่วนที่อยู่ในบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้
ซึ่งในส่วนนี้ เป็นการบอกว่า หากคุณลูกค้าเลือกที่ใช้การชำระเงินด้วย PayPal และต้องการเลือกการชำระแบบที่ลูกค้าโอนเงิน ( Send Money ) ไปเข้าบัญชี PayPal ของคนขายโดยตรง ( คือบัญชีที่ชื่อ Jack@LJMilitaria.com ) / ก็จะเสีย "ค่าธรรมเนียม" เป็นเงิน 5% ของยอดรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าราคาสินค้าคือ 73 เหรียญ และค่าส่งมาไทยคือ 27 เหรียญ รวมแล้วค่าใช้จ่ายโดยรวมคือ 73 + 27 = 100 เหรียญแล้วล่ะก็
คำว่า add 5% to total bill ก็หมายความว่า ถ้าจะโอนเงิน 100 เหรียญ ( ซึ่งก็คือ total bill ) ให้คนขาย เราในฐานะผู้โอน จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 5% ของยอดเงิน 100 เหรียญนั้น เพื่อเป็นค่าธรรมเนียมการโอน ( Fee )
พูดง่ายๆก็คือว่า เมื่อค่าสินค้า + ค่าส่งมาประเทศไทย รวมแล้วเป็น 100 เหรียญ ( มาจากค่าสินค้า 73 เหรียญ + ค่าส่งมาไทยอีก 27 เหรียญ ) เราจะต้องโอนเงินไปให้คนขายทั้งหมด 105 เหรียญ นั่นเองครับ ( คือต้องเพิ่มเข้าไปอีก 5% ของราคารวม เพื่อจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมการโอน )
( ภาพบน ) ส่วนที่สาม ซึ่งก็คือบรรทัดสุดท้าย ที่อยู่ในภาพข้างบนนี้ / ซึ่งก็คือส่วนที่อยู่ในบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้
ซึ่งในส่วนนี้ เป็นการบอกว่า หากคุณลูกค้าเลือกใช้การชำระเงินด้วย PayPal โดยเลือกการชำระแบบที่ให้คนขาย เป็นฝ่ายส่งใบเรียกเก็บเงิน ( ซึ่งก็คือการส่งใบอินวอยซ์ ) มาให้ลูกค้า / กรณีนี้ คุณลูกค้าจะต้องเสีย "ค่าธรรมเนียม" เป็นเงิน 10 เหรียญ ( โดยไม่ได้พูดเป็น % )
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าราคาสินค้าคือ 73 เหรียญ และค่าส่งมาไทยคือ 27 เหรียญ รวมแล้วค่าใช้จ่ายโดยรวมคือ 73 + 27 = 100 เหรียญแล้วล่ะก็
คำว่า the charge is $10 ก็หมายความว่า ถ้าจะโอนเงิน 100 เหรียญ ( ซึ่งก็คือ total bill ) ให้คนขายแล้วล่ะก็ เราในฐานะผู้โอน จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 10 เหรียญ เพื่อเป็นค่าธรรมเนียมการโอน ( Fee )
พูดง่ายๆก็คือว่า เมื่อค่าสินค้า + ค่าส่งมาประเทศไทย รวมแล้วเป็น 100 เหรียญ ( มาจากค่าสินค้า 73 เหรียญ + ค่าส่งมาไทยอีก 27 เหรียญ ) เราจะต้องโอนเงินไปให้คนขายทั้งหมด 110 เหรียญ นั่นเองครับ ( คือต้องเพิ่มเข้าไปอีก 10 เหรียญ เพื่อจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมการโอน )
ทีมงานจะเปรียบเทียบให้ดูนะครับ
เคสแรก คือ ลองโอนยอด 100 เหรียญก่อน
เมื่อเราโอนเงินยอดรวม 100 เหรียญ ( มาจากค่าสินค้า 73 เหรียญ + ค่าส่งมาไทยอีก 27 เหรียญ ) ไปให้คนขายนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการคำนวณก็คือ
* * * ถ้าชำระยอดรวม 100 เหรียญให้คนขาย แบบโอนให้ตรงๆ ( Send Money ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 105 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 100 เหรียญ ) + 5 เหรียญ ( คือ 5% ของค่าใช้จ่ายรวม ) )
* * * ถ้าชำระยอดรวม 100 เหรียญให้คนขาย แบบให้คนขายส่งใบเรียกเก็บเงินมา ( ส่ง Invoice ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 110 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 100 เหรียญ ) + 10 เหรียญ ( ที่คนขายกำหนดมาแบบ "ตายตัว" ว่าคือ 10 เหรียญ / ไม่ได้พูดเป็นเปอร์เซนต์ของยอดรวม )
สรุปในเคสแรก - ในส่วนของการโอนเงินยอด 100 เหรียญนั้น การโอนแบบโดนตรงๆ จะถูกกว่า เพราะเราจะเสียเงินแค่ 105 เหรียญ ในขณะที่การโอนแบบรอใบอินวอยซ์ เราจะต้องเสียเงิน 110 เหรียญ
เคสที่สอง คือ ทดลองโอนยอด 202 เหรียญ
เมื่อเราโอนเงินยอดรวม 202 เหรียญ ( สมมติ ) ไปให้คนขายนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการคำนวณก็คือ
* * * ถ้าชำระยอดรวม 202 เหรียญให้คนขาย แบบโอนให้ตรงๆ ( Send Money ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 212.1 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 202 เหรียญ ) + 10.1 เหรียญ ( คือ 5% ของค่าใช้จ่ายรวม ) )
* * * ถ้าชำระยอดรวม 202 เหรียญให้คนขาย แบบให้คนขายส่งใบเรียกเก็บเงินมา ( ส่ง Invoice ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 212 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 202 เหรียญ ) + 10 เหรียญ ( ที่คนขายกำหนดมาแบบ "ตายตัว" ว่าคือ 10 เหรียญ / ไม่ได้พูดเป็นเปอร์เซนต์ของยอดรวม )
สรุปในเคสที่สอง - ในส่วนของการโอนเงินยอด 202 เหรียญนั้น การโอนแบบรอใบอินวอยซ์ จะ "ถูกกว่า" การโอนแบบตรงๆ เพราะว่าการโอนแบบรอใบอินวอยซ์ เราจะต้องเสียเงินแค่ 212 เหรียญ ในขณะที่ ถ้าเป็นการโอนแบบตรงๆ เราจะเสียเงิน 212.1 เหรียญ
( ภาพบน ) คำถามที่ถามมาว่า "การโอนเงิน รูปแบบที่ 1 กับ รูปแบบที่ 2 อันไหนเสียค่าธรรมเนียมถูกกว่ากัน? ( จะได้เลือกอันนั้น )" นั้น ไม่สามารถตอบแบบเฉพาะเจาะจงไปว่าเป็น รูปแบบ 1 หรือ รูปแบบที่ 2 ที่ถูกกว่า / เพราะการจะตอบ จะต้องตอบแบบมีเงื่อนไข / และเงื่อนไขนั้นก็คือต้องดู "ยอดรวมของเงินที่จะโอน" นั่นก็คือว่า
1.ถ้าโอนเงินตั้งแต่ “201 เหรียญ ลงมา” ให้โอนแบบโอนตรง ( Send Money - รูปแบบที่ 1 ) จะถูกกว่า
2.ถ้าโอนเงินตั้งแต่ “202 เหรียญ ขึ้นไป” ให้โอนแบบรอใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice - รูปแบบที่ 2 ) จะถูกกว่า
- END -
ราคาสินค้าคือ 159 เหรียญออสเตรเลีย ( $AUD ) ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ ) / ซึ่งเป็นราคาสินค้าอย่างเดียว โดยที่ยังไม่ได้รวมค่าส่งสินค้ามาประเทศไทย
จากนั้น ทีมงานก็เมลล์บอกคนขายว่า ต้องการซื้อสินค้าชิ้นนี้ และให้ส่งมาประเทศไทย คิดค่าส่งเท่าไร และเวลาจะชำระเงินต้องทำอย่างไร?
ซึ่งคนขายก็แจ้งกลับมาว่าค่าส่งคือ 5.55 เหรียญออสเตรเลีย ( รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็น 159 + 5.55 = 164.55 เหรียญออสเตรเลีย ) สำหรับการชำระเงินนั้น ทางคนขายจะส่ง Money Request คือส่งใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) มาให้ทีมงาน
( ภาพบน ) ใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) |
จากนั้น ทีมงานก็คลิ๊กเข้าไปดู / เมื่อคลิ๊กเข้ามาดูแล้ว ก็จะเห็นใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) ที่มีหน้าตาเหมือนในภาพข้างล่างนี้
ตรงที่ ลูกศรสีน้ำเงิน ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ บอกว่ายอดเงินที่เรียกเก็บคือ 164.55 เหรียญออสเตรเลีย ซึ่งก็ตรงกับที่เราคุยกับคนขายไว้เมื่อ 2 วันก่อน ( มาจาก ค่าสินค้า + ค่าส่งมาประเทศไทย ซึ่งก็คือ 159 + 5.55 = 164.55 เหรียญออสเตรเลีย )
หลังจากตรวจสอบทุกอย่างว่าถูกต้องแล้ว ทีมงานก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม Continue ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
* * * หมายเหตุ - การโอนเงินแบบที่ต้องรอใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) นั้น เราไม่ต้องรู้บัญชี PayPal ของผู้รับโอน ( หมายถึง คนขายสินค้า ) ก็ได้ ( ในขณะที่ ถ้าเป็นการโอนแบบ Send Money เราจะต้องรู้ปบัญชี PayPal ของคนขายเสียก่อน ถึงจะโอนเงินให้คนขายได้ ) / เหตุผลที่เราไม่จำเป็นต้องรู้บัญชี PayPal ของผู้รับโอนก็เพราะว่า ทางผู้รับโอน เขาส่งเป็นใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) มา ซึ่งในใบเรียกเก็บเงินนั้น ก็จะมีรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับการขาย ไม่ว่าจะเป็นอีเมลล์ของผู้รับโอน ,ราคาสินค้า ฯลฯ / เราไม่ต้องทำอะไรเลย ( คือไม่ต้องขวนขวาย เสาะหาบัญชี PayPal ของคนขาย เหมือนการโอนเงินในรูปแบบที่ 1 ) แค่โอนเงินให้คนขายตามที่เขาเรียกเก็บเงินมา ( ตามที่ปรากฏในใบ Invoice ในภาพข้างบนนี้ ) อย่างเดียวก็พอ
( ภาพบน ) หน้าเวบของ PayPal |
จากนั้น เราก็กรอกไอดี และรหัสของ PayPal ลงไปตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ / แล้วก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม Log in ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้
และหลังจากตรวจสอบในขั้นสุดท้าย แล้วเห็นว่าทุกอย่างถูกต้องแล้ว ก็คลิ๊กไปที่ปุ่ม Pay Now ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้เพื่อเป็นการโอนเงินให้คนขาย
ถ้าหน้าเวบของ PayPal ปรากฏให้เห็นเหมือนในภาพข้างบนนี้ นั่นก็แสดงว่า การโอนเงินให้คนขายใน รูปแบบที่ 2 ( ซึ่งก็คือการโอนเงินแบบที่คนขายต้องส่งใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice ) มาให้เราก่อน เราถึงจะโอนเงินให้เขาได้ ) ก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วครับ
ขอแทรกนิดนึงครับ
( ภาพบน ) ยอดเงินที่ต้องการจะโอนไปให้เพื่อนทางธนาณัติ |
ถ้าคุณผู้อ่านกำเงินสดไปที่ทำการไปรษณีย์ เป็นเงินแค่ 325 บาท แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ส่งยอดเงินนี้ไปให้เพื่อนคุณทางธนาณัติ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์คนนั้น เขาก็คงไม่ทำให้คุณหรอกครับ!
ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ทำให้?
( ภาพบน ) ค่าบริการที่ทางไปรษณีย์คิดจากเรา |
ถ้าจะให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ส่งธนาณัติให้เพื่อนคุณ คุณก็ต้องเสียค่าบริการ แยกต่างหากอีก 10.70 บาท ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้ )
การโอนเงินไปให้เพื่อนทางธนาณัติ ก็คือการ "จ้างคนอื่น" ให้ทำการโอนเงินให้เรา ซึ่ง "คนอื่น" ที่ว่านี้ ก็คือบริษัทไปรษณีย์ไทยนั่นเอง
นั่นก็หมายความว่า เวลาที่ทีมงานจะโอนเงินไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศนั้น ทีมงานก็ต้องจ้างให้บริษัท PayPal ทำหน้าที่โอนเงินไปต่างประเทศให้
และเวลาที่บริษัท PayPal เขาโอนเงินของเราไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศนั้น เขาก็ ไม่ได้บริการเราฟรีๆ เขาก็คิดค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียม กับเรา เหมือนกับที่บริษัทไปรษณีย์ไทยคิดค่าบริการกับเรา ตอนที่เราให้บริษัทไปรษณีย์ไทยส่งธนาณัติให้เพื่อนเรานั่นเองครับ
สรุปว่า ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ก็คือการอธิบายให้คุณเข้าใจว่า ทำไมถึงต้องมี Fee หรือ "ค่าธรรมเนียม" เกิดขึ้นตอนโอนเงินด้วย PayPal ด้วย / ซึ่งคำตอบก็คือว่า Fee หรือ "ค่าธรรมเนียม" นั้น ก็คือค่าบริการ ที่บริษัท PayPal คิดกับเรา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่เราให้บริษัท PayPal โอนเงินไปให้คนขายที่อยู่ต่างประเทศนั่นเองครับ
( ภาพบน ) สินค้าที่เราต้องการจะซื้อจากคนขาย |
( ภาพบน ) เมลล์ที่คนขายตอบกลับมา |
ข้อความทั้งหมดในเมลล์ข้างบนนี้ คุณผู้อ่านไม่ต้องอ่านหมดก็ได้ครับ เพราะว่าส่วนที่สำคัญจริงๆ ที่ทีมงานจะใช้ในการอธิบายนั้น มันจะเป็นส่วนเล็กๆของเมลล์ ตรงที่อยู่ในบริเวณที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ในภาพข้างล่างนี้นะครับ
เดี๋ยวทีมงานจะเอาเฉพาะส่วนที่มี กรอบสี่เหลี่ยมเส้นขอบประสีเขียว ครอบอยู่ในภาพข้างบนนี้ มาพูดนะครับ
เอาล่ะครับ เรามาดูรายละเอียดในข้อความนี้กัน
ในส่วนแรกนี้ เป็นข้อความที่บอกเราว่า คนขายเขารับการชำระค่าสินค้าด้วยการจ่ายผ่านทาง PayPal ได้ / โดยถ้าลูกค้าสนใจจะจ่ายด้วย PayPal ก็ให้โอนเงินเข้าบัญชี PayPal ของเขา ที่ชื่อ Jack@LJMilitaria.com
ซึ่งในส่วนนี้ เป็นการบอกว่า หากคุณลูกค้าเลือกที่ใช้การชำระเงินด้วย PayPal และต้องการเลือกการชำระแบบที่ลูกค้าโอนเงิน ( Send Money ) ไปเข้าบัญชี PayPal ของคนขายโดยตรง ( คือบัญชีที่ชื่อ Jack@LJMilitaria.com ) / ก็จะเสีย "ค่าธรรมเนียม" เป็นเงิน 5% ของยอดรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าราคาสินค้าคือ 73 เหรียญ และค่าส่งมาไทยคือ 27 เหรียญ รวมแล้วค่าใช้จ่ายโดยรวมคือ 73 + 27 = 100 เหรียญแล้วล่ะก็
คำว่า add 5% to total bill ก็หมายความว่า ถ้าจะโอนเงิน 100 เหรียญ ( ซึ่งก็คือ total bill ) ให้คนขาย เราในฐานะผู้โอน จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 5% ของยอดเงิน 100 เหรียญนั้น เพื่อเป็นค่าธรรมเนียมการโอน ( Fee )
พูดง่ายๆก็คือว่า เมื่อค่าสินค้า + ค่าส่งมาประเทศไทย รวมแล้วเป็น 100 เหรียญ ( มาจากค่าสินค้า 73 เหรียญ + ค่าส่งมาไทยอีก 27 เหรียญ ) เราจะต้องโอนเงินไปให้คนขายทั้งหมด 105 เหรียญ นั่นเองครับ ( คือต้องเพิ่มเข้าไปอีก 5% ของราคารวม เพื่อจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมการโอน )
ซึ่งในส่วนนี้ เป็นการบอกว่า หากคุณลูกค้าเลือกใช้การชำระเงินด้วย PayPal โดยเลือกการชำระแบบที่ให้คนขาย เป็นฝ่ายส่งใบเรียกเก็บเงิน ( ซึ่งก็คือการส่งใบอินวอยซ์ ) มาให้ลูกค้า / กรณีนี้ คุณลูกค้าจะต้องเสีย "ค่าธรรมเนียม" เป็นเงิน 10 เหรียญ ( โดยไม่ได้พูดเป็น % )
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าราคาสินค้าคือ 73 เหรียญ และค่าส่งมาไทยคือ 27 เหรียญ รวมแล้วค่าใช้จ่ายโดยรวมคือ 73 + 27 = 100 เหรียญแล้วล่ะก็
คำว่า the charge is $10 ก็หมายความว่า ถ้าจะโอนเงิน 100 เหรียญ ( ซึ่งก็คือ total bill ) ให้คนขายแล้วล่ะก็ เราในฐานะผู้โอน จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 10 เหรียญ เพื่อเป็นค่าธรรมเนียมการโอน ( Fee )
พูดง่ายๆก็คือว่า เมื่อค่าสินค้า + ค่าส่งมาประเทศไทย รวมแล้วเป็น 100 เหรียญ ( มาจากค่าสินค้า 73 เหรียญ + ค่าส่งมาไทยอีก 27 เหรียญ ) เราจะต้องโอนเงินไปให้คนขายทั้งหมด 110 เหรียญ นั่นเองครับ ( คือต้องเพิ่มเข้าไปอีก 10 เหรียญ เพื่อจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมการโอน )
เคสแรก คือ ลองโอนยอด 100 เหรียญก่อน
เมื่อเราโอนเงินยอดรวม 100 เหรียญ ( มาจากค่าสินค้า 73 เหรียญ + ค่าส่งมาไทยอีก 27 เหรียญ ) ไปให้คนขายนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการคำนวณก็คือ
* * * ถ้าชำระยอดรวม 100 เหรียญให้คนขาย แบบโอนให้ตรงๆ ( Send Money ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 105 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 100 เหรียญ ) + 5 เหรียญ ( คือ 5% ของค่าใช้จ่ายรวม ) )
* * * ถ้าชำระยอดรวม 100 เหรียญให้คนขาย แบบให้คนขายส่งใบเรียกเก็บเงินมา ( ส่ง Invoice ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 110 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 100 เหรียญ ) + 10 เหรียญ ( ที่คนขายกำหนดมาแบบ "ตายตัว" ว่าคือ 10 เหรียญ / ไม่ได้พูดเป็นเปอร์เซนต์ของยอดรวม )
สรุปในเคสแรก - ในส่วนของการโอนเงินยอด 100 เหรียญนั้น การโอนแบบโดนตรงๆ จะถูกกว่า เพราะเราจะเสียเงินแค่ 105 เหรียญ ในขณะที่การโอนแบบรอใบอินวอยซ์ เราจะต้องเสียเงิน 110 เหรียญ
เคสที่สอง คือ ทดลองโอนยอด 202 เหรียญ
เมื่อเราโอนเงินยอดรวม 202 เหรียญ ( สมมติ ) ไปให้คนขายนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการคำนวณก็คือ
* * * ถ้าชำระยอดรวม 202 เหรียญให้คนขาย แบบโอนให้ตรงๆ ( Send Money ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 212.1 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 202 เหรียญ ) + 10.1 เหรียญ ( คือ 5% ของค่าใช้จ่ายรวม ) )
* * * ถ้าชำระยอดรวม 202 เหรียญให้คนขาย แบบให้คนขายส่งใบเรียกเก็บเงินมา ( ส่ง Invoice ) เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดไป 212 เหรียญ ( มาจาก ค่าใช้จ่ายรวม ( คือ 202 เหรียญ ) + 10 เหรียญ ( ที่คนขายกำหนดมาแบบ "ตายตัว" ว่าคือ 10 เหรียญ / ไม่ได้พูดเป็นเปอร์เซนต์ของยอดรวม )
สรุปในเคสที่สอง - ในส่วนของการโอนเงินยอด 202 เหรียญนั้น การโอนแบบรอใบอินวอยซ์ จะ "ถูกกว่า" การโอนแบบตรงๆ เพราะว่าการโอนแบบรอใบอินวอยซ์ เราจะต้องเสียเงินแค่ 212 เหรียญ ในขณะที่ ถ้าเป็นการโอนแบบตรงๆ เราจะเสียเงิน 212.1 เหรียญ
1.ถ้าโอนเงินตั้งแต่ “201 เหรียญ ลงมา” ให้โอนแบบโอนตรง ( Send Money - รูปแบบที่ 1 ) จะถูกกว่า
2.ถ้าโอนเงินตั้งแต่ “202 เหรียญ ขึ้นไป” ให้โอนแบบรอใบเรียกเก็บเงิน ( Invoice - รูปแบบที่ 2 ) จะถูกกว่า
- END -